ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 2 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ศรัทธาประพฤติธรรม 4 สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ชีวิตมีสุข

 

ถาม

ดิฉันเป็นเจ้าของกิจการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค ตั้งใจดำเนินกิจการอยู่บนความถูกต้อง ดิฉันจะทำอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ ?

 

ตอบ

“ความถูกต้อง” ที่คุณยึดเป็นหลักในการทำงานของคุณนั้น มาจากคำว่า “สัจจะ” ซึ่งแปลว่า ความซื่อตรง ซื่อสัตย์ นั่นก็หมายความว่า ต้องทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง

 


เมื่อครั้งพุทธกาล เคยมีหัวหน้ายักษ์เป็นผู้ตั้งคำถาม ถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ทำอย่างไรให้มีชีวิตอยู่ก็เป็นสุข ตายแล้วก็ไปสวรรค์” พระองค์ตรัสตอบว่า “ผู้มีศรัทธา เชื่อในคำสอนของพระอริยเจ้า แล้วมีความประพฤติ 4 ข้อ คือ 1. มีสัจจะ 2. มีทมะ 3. มีขันติ 4. มีจาคะ ผู้มีศรัทธาและมีธรรมครบ 4 อย่างนี้ มีชีวิตอยู่ในโลกก็มีความสุข ตายไปก็ไปสวรรค์”


 


ธรรมเรื่องที่ 1 สัจจะ เป็นธรรมที่ต้องลงมือประพฤติปฏิบัติ ถ้ารู้ความหมายเพียงแค่ “ความถูกต้อง” ยังไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจมากพอจะนำไปปฏิบัติได้ ถ้าแปลในลักษณะที่เอาไปฝึกด้วย ใช้งานด้วย สัจจะนั้นแปลว่า ความรับผิดชอบ เมื่อทำอะไรขึ้นมาแล้ว ถ้าผิดก็ต้องรับผิด ถ้าถูกก็รับความดีความชอบไป บูรพาจารย์ของเราท่านแยกออกมาให้ดูว่า ความถูกต้องที่คุณจะต้องรับผิดชอบ ทำนั้นมีอยู่ 5 เรื่อง ไม่ใช่เรื่องเดียว

 

1.รับผิดชอบต่อหน้าที่ ต้องทำให้ครบทุกหน้าที่ที่มี

2.รับผิดชอบต่อการงาน หน้าที่แต่ละอย่างมีการงานที่ต้องทำมากมาย งานต่าง ๆ ที่ทำขึ้นมา ต้องทำให้ได้ดี ถึงระดับดีที่สุด

3.รับผิดชอบต่อคำพูด ในการดูแลกิจการนั้นคุณไม่ได้ทำเองทุกเรื่อง คุณต้องให้คนอื่นมาช่วยทำ ฉะนั้นคำพูดของคุณที่สั่งงานไป ต้องให้ชัดเจน

4.รับผิดชอบต่อบุคคล คุณมีบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งบุคคลต่าง ๆ ในการปกครองรวมถึงลูกค้าของคุณด้วย

5.รับผิดชอบต่อความดีของตัวเอง คือ บุญบาปที่จะเกิดกับคุณ รวมทั้งนิสัยดี ๆ หรือนิสัยเลว ๆ ที่จะเกิดกับคุณ

 

ยกตัวอย่างการทำงานของคุณ จะสร้างผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น หน้าที่ของคุณต้องไปควบคุมดูแล วิจัยแล้ววิจัยอีก ทดลองแล้วทดลองอีก ให้ได้ผลแน่นอน จึงจะยอมให้มีการผลิตออกมาจำหน่าย ส่วนในงานผลิต คุณก็ต้องติดตามรักษาคุณภาพให้สม่ำเสมอ ต้องกำกับดูแลลูกน้องทุกระดับ ให้ทำงานให้ดีที่สุด เพื่อรักษาชื่อเสียงของยี่ห้อเอาไว้ ฉลากสินค้าทุกตัวอักษรก็ต้องรับผิดชอบ เพราะมันคือคำพูดของคุณ ถ้าทำไม่ดี ก็คือการไม่รับผิดชอบทั้งต่อลูกค้า ต่อบุคลากร ต่อบริษัท สุดท้ายก็ต่อบุญบาปของตัวเอง

 

นี้คือธรรมเรื่องที่ 1 คือ สัจจะ ที่ใช้คำว่ารับผิดชอบ หรือความถูกต้อง ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อทั้งคุณและลูกน้องต้องฝึกให้ตัวเองมีความซื่อสัตย์ถึง 5 สถาน

 

ความรับผิดชอบเพื่อความถูกต้องนี้ ต้องฝึกจากการงานที่ทำ และต้องทำให้เป็นนิสัย โดยประการสำคัญ จะต้องมีความสำนึกในเรื่อง ความดี ความชั่ว เรื่องบุญ เรื่องบาป ให้เป็นนิสัย การมีความสำนึกในความรับผิดชอบ เรื่องบุญ เรื่องบาปเป็นนิสัย นั่นคือลักษณะของผู้มี “ศรัทธา” เชื่อในคำสอนของพระอริยเจ้าแล้ว เพราะถ้ายังไม่เชื่อว่า มีบุญ มีบาป มีนรก มีสวรรค์ มีชีวิตหลังความตาย ก็จะไม่ตระหนักถึงความสำคัญ ของการกระทำของตนว่า จะเป็นบุญหรือบาป คนที่ไม่เชื่อ ไม่มีศรัทธา จะไม่ทุ่มเทรับผิดชอบมาถึงตรงนี้

 

ธรรมเรื่องที่ 2 ทมะ ในขณะที่ทำการงาน ด้วยความรับผิดชอบ ตามหลักสัจจะอยู่นั้น คุณธรรมหนึ่งจะเกิดตามมา คือ ทมะ ซึ่งแปลว่า ฝึก แปลว่า ข่ม

 

1. ฝึกนิสัยดี ๆ ขึ้นมาใหม่ เมื่อก่อนเราอาจจะทำงานอะไรยังไม่ดีเท่านี้ แต่วันนี้ถึงคราวจะต้องสร้างธุรกิจให้เป็นหนึ่ง จึงต้องฝึกต้องทำให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แม้ตอนนี้สินค้าในตลาดของเรา ถือเป็นที่หนึ่งแล้ว แต่เมื่อคำนึงว่า เมื่อต่างประเทศรุกเข้ามา สินค้าของเรา ก็อาจจะร่นถอยลงมาเป็นอันดับ 3 อันดับ 4 ได้ เมื่อคาดการณ์เห็นอย่างนี้ ก็มีความจำเป็นจะต้องฝึกกันต่อไป ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไปไม่หยุดยั้ง

 

2. ต้องข่มนิสัยไม่ดีต่าง ๆ ให้หมดไปด้วย เพราะนิสัยไม่ดีต่าง ๆ คือข้อบกพร่องที่ทำให้การดำเนินธุรกิจ เกิดความเสียหาย เกิดอันตรายได้ เพราฉะนั้น เราก็ต้องฝึกบุคลากรทั้งองค์กร ให้มีใจคิดและฝึกไปในแนวทางเดียวกัน การพัฒนาถึงจะก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกันก็ระวังป้องกัน ไม่ให้เกิดความเสียหายตามหลังอีกด้วย

 

ธรรมเรื่องที่ 3 ขันติ คือ ความอดทน การทำงานทุกงานนั้น ต้องมีความอดทน ถ้าไม่มี ก็เติบโตต่อไปไม่ได้ ขันติมี 4 ลักษณะ แบ่งเป็น 3 ทน 1 อด คือ

 

1.ทนต่อความยากลำบาก ได้แก่ ทนแดด ทนลม ทนฝน ยิ่งเป็นเจ้าของต้องลงไปตรวจงาน ดูกิจการของเราเอง

2.ทนต่อทุกขเวทนา ได้แก่ ทนป่วย ทนไข้ ถ้าไม่เจ็บหนัก ก็ต้องออกไปติดตามดูการทำงานของลูกน้อง ถ้าปล่อยปละ อาจมีบางสิ่งรอดหูรอดตาไปแล้วเสียหายได้

 

3.ทนต่อการกระทบกระทั่ง เพราะการปกครองคนหมู่มาก ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบ้าง ก็ต้องทนต่อลูกน้อง ทนคำบ่น ทนคำนินทา

 

4.อดใจต่อการยั่วเย้าของกิเลส เช่น อดใจต่อคำชม คำสรรเสริญต่าง ๆ ถ้าเผลอตัวไปกับคำชื่นชมต่าง ๆ เราอาจประเมินกำลังศักยภาพของตนผิดพลาดได้ ความประมาทเป็นหนทางแห่งความเสื่อม

 

ธรรมเรื่องที่ 4 จาคะ คือ เสียสละ ในขณะที่ทำงานไปและพยายามฝึกสัจจะ ทมะ และขันติไปด้วย ก็มีเรื่องที่ต้องการความเสียสละของเราเกิดขึ้นตามมา

 

การเสียสละเกิดขึ้นหลายประการ ได้แก่

 

1.สละเวลา สละเวลาหลับ เวลานอน บางครั้งต้องติดตามงานให้เสร็จจนถึงดึกดื่น หรือบางครั้งต้องถูกปลุกแต่เช้า ไปดูแลแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น

 

2.สละความรู้ความสามารถ ความรู้ความสามารถบางอย่าง หวงไม่ได้ เมื่อต้องการคนมาช่วยงาน แบ่งเบาภาระงาน ต้องให้ความรู้แก่เขา และบางทีความรู้ที่เป็นความลับของเรา จะรั่วไหลไปบ้าง ก็คงต้องยอมสละ

 

3.สละอารมณ์ ต้องสละอารมณ์เสีย อารมณ์บูดทั้งหลาย จากการทำงาน จากความเห็นไม่ตรงกัน ฯลฯ หากจะทำให้การสละอารมณ์ตรงนี้ได้ง่าย ก็ต้องฝึกนั่งสมาธิให้บ่อย ๆ

 




4.สละทรัพย์สิ่งของ ถึงเวลา ถึงจังหวะโอกาสที่เหมาะสม ก็มีรางวัลเตรียมไว้ให้แก่ลูกน้องคนทำงานด้วย ตอบแทนน้ำใจ ที่เขายอมทำงานติดตามเรา ให้เราได้ใช้สอยให้ทำงาน ธรรมทั้ง 4 ประการ คือ สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ เมื่อฝึกทำงานไป จะเกิดตามกันมาเป็นชุด จึงจะเกิดเป็นนิสัยขึ้นมา ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่แยกเป็น 4 เรื่อง เปรียบเสมือนเพชรเม็ดหนึ่ง มีทั้งสีสวย เนื้อแกร่ง น้ำดี สะท้อนแสงแวววับ มันไม่ได้แยกออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจุดเริ่มต้นต้องเป็นคนที่มีศรัทธา เชื่อคำสอนของพระอริยเจ้า เชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อบุญบาปโลกนี้โลกหน้ามีจริง

 

เมื่อคุณคิดจะดำเนินกิจการบนความถูกต้อง ให้ลำดับความสำคัญของคุณภาพสินค้ามาก่อนกำไร นั่นคือเริ่มต้นการทำงานด้วยสัจจะ เป็นการเริ่มต้นที่ถูกทางแล้ว แต่จำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจรอบด้านว่า ความถูกต้องประกอบด้วยความรับผิดชอบถึง 4 ด้าน และธรรมชาติของความรับผิดชอบเหล่านี้ จะทำได้สมบูรณ์ จะต้องฝึกทมะ ขันติ และจาคะให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วย

 

ดังนั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้ กิจการก็จะเจริญเติบโตยั่งยืนได้ ทรัพย์ก็มั่งคั่ง ชีวิตก็มั่นคง สมบูรณ์ด้วยมิตรสหาย ลูกน้องบริวาร และเป็นชีวิตที่ได้สั่งสมบุญ ละเว้นจากบาปอกุศล จึงเป็นชีวิตที่อยู่ในโลกอย่างเป็นสุข ตายแล้วก็ไปสู่สวรรค์


พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว

หลวงพ่อตอบปัญหา


สรุปท้ายที่สุดนี้ เพียงเราประพฤติธรรม 4  สัจจะ ทมะ ขันติ จาคะ ให้เป็นอุปนิสัยติดตัว จะทำให้ดำเนินชีวิตประสบแต่ความสุข ความเจริญ เป็นที่รักของมนุษย์และเทวดา ทั้งในภพชาติปัจจุบันและภพชาติเบื้องหน้า ไปทุกภพชาติ กระทั่งเข้าสู่ฝั่งพระนิพพาน ตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรมเลยทีเดียว 


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว ค้าขายอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ ?

ภาพประกอบ

1 ความคิดเห็น:

  1. ขอกราบแทบเท้าหลวงพ่อด้วยความเคารพ และขอกราบอนุโมทนาบุญ สาธุ

    ตอบลบ

โลกสว่างไสวด้วย...สองมือเรา

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การได้เกิดมาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนา มีศรัทธารักที่จะ ละชั่ว ทำความดี ทำใจใส ๆ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือ...