ค้นหาบล็อกนี้

วันพุธที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2563

นรก - สวรรค์ มีจริงไหม ?

 

 


 

เมื่อสมัยก่อนที่หลวงพ่อจะบวช ความสงสัยเรื่องนรก-สวรรค์ว่า มีจริงหรือไม่ ก็เคยกิดขึ้นกับหลวงพ่อเหมือนกัน เพราะว่าการหาครูบาอาจารย์ในทางธรรม ที่กล้ายืนยันว่า นรก-สวรรค์มีจริง นับวันจะหาได้น้อยเต็มที

 

 

ยิ่งในยุคนี้เป็นยุคที่เทคโนโลยีเจริญเต็มที่ ถ้าหากมีพระอาจารย์รูปใดยืนยันว่ามีจริง ก็มักจะถูกผู้ที่ไม่เชื่อ ออกมากล่าวโจมตีว่า เอาสวรรค์มาล่อ เอานรกมาขู่ ซึ่งทำให้ประชาชนทั่วไป แม้แต่ชาวพุทธก็ชักลังเลว่า นรก-สวรรค์ มีจริงหรือไม่มีจริง ทั้ง ๆ ที่เรื่องสวรรค์และนรกนี้เป็นเรื่องราว ที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสแสดงธรรมไว้มากมาย แล้วก็มีการบันทึกเป็นหลักฐานอยู่ในพระไตรปิฎกมาเป็นพัน ๆ ปี

 

เมื่อสมัยหลวงพ่อยังเรียนอยู่ชั้นประถมต้น ก็เชื่อว่านรก-สวรรค์มีจริง เพราะผู้ใหญ่บอกไว้ตั้งแต่จำความได้ แต่พออยู่ประมาณชั้น ป.๔ ก็เริ่มไม่แน่ใจ เพราะมีผู้ใหญ่บางคนที่ไม่เชื่อมาพูด ให้ได้ยินว่านรก-สวรรค์ไม่มีจริง

 

เมื่อความเห็นของผู้ใหญ่แบ่งเป็น ๒ กลุ่มแบบนี้ หลวงพ่อเองแม้เป็นเด็กแต่ก็ต้องการคำยืนยันจากผู้ใหญ่ แต่ก็ปรากฏว่าหาผู้ที่กล้ายืนยันแบบชัด ๆ ไม่ค่อยได้

 

หลวงพ่อนำคำถามนี้ไปถามพระ ถามครูถามลุงป้าน้าอา เพื่อต้องการคำยืนยันว่าสวรรค์-นรก มีจริงหรือไม่มีจริง แล้วก็พบว่าผู้ใหญ่ส่วนใหญ่จะตอบแบบก้ำกึ่งว่ามันน่าจะมี เพราะว่าในพระไตรปิฎกมีบันทึกไว้มาก แต่ว่าท่านเองก็ไม่เคยเห็นด้วยตัวเอง

 

การที่ท่านเชื่อว่าน่าจะมี ก็เพราะว่าพระไตรปิฎกนั้นเป็นบันทึก ของพระอรหันต์ไม่ใช่บันทึกของชาวบ้านปุถุชน แล้วในการที่คัดลอกต่อ ๆ กันมาจนถึงปัจจุบันนี้ บรรพบุรุษของเราในยุคโน้นก็ไม่มีเหตุผล ว่าจะโกหกเราไปทำไม เพราะท่านก็ไม่ได้อะไร จากการที่คัดลอกพระไตรปิฎกไว้เป็นมรดกให้แก่ลูกหลาน

 


การคัดลอกพระไตรปิฎกนั้น หลวงพ่อยังทันได้เห็นเมื่อตอนเป็นเด็ก สมัยนั้นเวลาเขาคัดลอกลงใบลาน กว่าจะได้ใบลานมาใช้งาน เขาก็ต้องลงแรงกันมากทีเดียว

 

เขาต้องไปเลือกใบลานก่อน เลือกแล้วเลือกอีกอยู่นาน แล้วก็นำมาตาก นำมาผึ่งแดดแล้วก็นำมาตัด นำมากรีด จนกระทั่งได้ขนาดที่พอดี แล้วก็ใช้เหล็กเขียนตัวอักษรลงไปบนใบลาน

 

การเขียนอักษรบนใบลาน เขาใช้คำศัพท์ว่า “ จาร ”

 

คำว่า “ จาร ” แปลว่า “ เขียน ” การใช้เหล็กจารก็คือ การใช้เหล็กเขียน โดยมีด้ามจับเป็นไม้ แล้วตรงปลายมีเหล็กแหลมใช้เขียนลงไปบนใบลาน

 

เวลาเขียนต้องกดปลายเหล็กแหลม ๆให้กินลงไปในเนื้อของใบลาน พอเขียนเสร็จหมด ๑ ใบแล้ว ก็ต้องเอาน้ำมันของต้นยางผสมกับดินหม้อดำๆ ที่ได้มาจากก้นหม้อก้นกระทะ พอผสมได้ที่แล้วก็จะได้น้ำมันยางเป็นสีดำ แล้วเขาก็ทาลงไปที่ใบลาน

 

เมื่อทาลงไปแล้ว น้ำมันยางกับดินหม้อดำ ๆ ก็แทรกเข้าไปในเนื้อของใบลาน แล้วเขาก็ใช้ผ้าค่อย ๆ เช็ดสีดำ ๆ ที่เปื้อนใบลานอยู่ออกไป ก็จะเหลือแต่สีดำ ๆ ฝังไว้ในรอยขีดรอยเขียนบนใบลาน

 

เพราะฉะนั้น กว่าจะเขียนใบลานได้แต่ละใบ ไม่รู้เขาเมื่อย เขาเหนื่อยกันขนาดไหน ถ้าเขียนผิดพลาดตัวหนึ่ง ก็ต้องทิ้งทั้งแผ่นเพราะลบไม่ได้ การเขียนพระไตรปิฎกในอดีตจึงเหนื่อยหนักหนาสาหัสนัก

 

เมื่อตอนหลวงพ่อยังเด็ก ก็เคยได้ยินผู้ใหญ่รุ่นนั้น ท่านบ่นเหมือนกันว่า วันนี้เขียนได้ตั้ง ๒ แผ่น ๓ แผ่น เมื่อยมือเมื่อยหลังไปหมดเลย หลวงพ่อเป็นเด็กก็ยังไม่รู้เรื่องอะไรมากก็เลยถามท่านว่า ถ้าเมื่อยแล้วจะไปเขียนทำไม ท่านก็บอกว่า “ฉันจะเอาบุญ” หลวงพ่อก็เลยได้คิดว่า ที่ท่านมานั่งหลังขดหลังแข็งจารึกพระไตรปิฎกลงใบลานเป็นวัน ๆ ก็เพราะว่า ท่านจะเอาบุญ ท่านไม่ได้รับจ้างเขียนหนังสือ ไม่ได้รับจ้างเขียนใบลาน

 

การที่หลวงพ่อใช้คำว่า ท่าน ก็เพราะว่ามีทั้งพระ มีทั้งฆราวาสที่ผ่านการบวชแล้ว มาช่วยกันเขียน ฆราวาสก็คืออดีตพระ เพราะผู้ชายอายุครบ ๒๐ ปีในยุคโน้น ก็บวชเรียนกัน ทำให้มีความสามารถในการเขียนใบลาน เมื่อสึกหาลาเพศไปมีครอบครัว พอพ้นฤดูทำนา ท่านก็มาช่วยหลวงพ่อ มาช่วยพระอาจารย์เขียนพระไตรปิฎก จารตัวอักษรลงใบลานกัน เขาทำสืบทอดกันอย่างนี้มาเป็นร้อยเป็นพันปี ทำด้วยความศรัทธา ทำด้วยความเหนื่อยยากเพราะฉะนั้นท่านจึงไม่มีเหตุผล จะต้องมาเขียนเพื่อโกหกคนรุ่นหลัง

 เรื่องที่เล่ามาเป็นแค่เรื่องการเขียนลงใบลาน ส่วนเรื่องการลองผิดลองถูก เมื่อพัน ๆ ปีก่อนหน้าโน้น กว่าจะสรุปได้ว่าต้องเป็นใบลาน ก็คงใช้เวลาอยู่ไม่น้อย แล้วใบลานก็ยังมีหลายชนิด กว่าจะสรุปได้ว่าใบลานชนิดไหน ใช้ได้หรือไม่ได้ ก็คงหมดเวลาอีกไม่น้อย เมื่อได้ชนิดใบลานแล้ว กว่าจะสรุปได้ว่าต้องใช้ใบแก่ขนาดนั้นขนาดนี้ เลือกแล้วเลือกอีก ก็คงใช้เวลาอีกไม่น้อย

 

เพราะฉะนั้น หลวงพ่อ หลวงปู่ ในยุคโน้น แม้ตัวท่านเองยังมองนรก มองสวรรค์ไม่เห็น แต่ท่านก็มีความมั่นใจ ว่าอย่างน้อยต้องมีจริง เพราะเห็นความวิริยอุตสาหะของปู่ย่าตาทวดของท่าน ที่พากเพียรบันทึกพระไตรปิฎกลงใบลานสืบทอดกันมาเป็นพันๆ ปี

 

ในฐานะที่ตอนนั้นหลวงพ่อเป็นเด็ก จึงตระเวนถามไปทั่ว บางท่านก็ตอบชัดเจนว่ามีจริง แต่พอซักถามต่อว่า หลวงพ่อหลวงพี่เคยเห็นหรือ ท่านก็ดีนะตอบตรง ๆ ว่าไม่เคย หลวงพ่อก็ซักถามอีกว่า แล้วทำไมหลวงพ่อหลวงพี่มั่นใจล่ะว่ามีจริง ? ท่านก็ตอบว่า แม้ท่านจะไม่เคยเห็น แต่อาจารย์บ้าง หลวงลุงของท่านบ้างเคยเห็น แล้วท่านก็ไม่รู้จะโกหกไปทำไม ความที่สมาธิของท่านยังไม่แก่กล้า พอมีคนไปถาม ท่านก็ตอบมาแบบก้ำกึ่ง เพราะท่านก็กลัวว่าจะกลายเป็นพูดเท็จไป เมื่อท่านตอบมาแบบนี้ ก็เลยทำให้คนฟังหมดความมั่นใจ

 

หลวงพ่อเองเมื่อสมัยก่อนบวช เมื่อเรียนอยู่ชั้นปีสุดท้ายของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ก็ยังสงสัยเรื่องนรก-สวรรค์ ว่ามีจริงหรือไม่อยู่เหมือนเดิม แต่ก็หาใครตอบคำถามแบบกล้ายืนยันไม่ได้สักที จนกระทั่งเมื่อได้มาพบกับคุณยาย (คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง) พอพบกันครั้งแรกก็ถามคุณยายทันทีว่า....

 

 

คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

(ครูผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของวัดพระธรรมกาย)



“ ยาย เรื่องนรก-สวรรค์นี่ มีจริงหรือไม่จริง ? ”

 

คุณยายตอบแบบชัดเจนเลยว่า “มีสิคุณ” คุณยายตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจขนาดนั้นยังไม่พอ ยังยืนยันเพิ่มเติมด้วยว่า “ ยายไปช่วยพ่อมาด้วยตัวเอง พ่อยายละโลกแล้วไปตกนรก เพราะว่าตอนมีชีวิตอยู่กินเหล้าทุกเย็น ยายไปช่วยมาเลยนะ อาราธนาพระธรรมกายในตัวไปช่วยมาเลย พ่อยายจึงได้พ้นนรก ”

 

หลวงพ่อก็ซักถามต่อว่า “ ยาย คนที่ตกนรกไปช่วยกันได้หรือ ? ”

 

“ ได้สิคุณ” 

“แล้วอย่างผมจะมีโอกาสทำได้บ้างไหม ? ” 

ได้สิคุณ ยายนี่กอข้อไม่กระดิกหู (ก ข โบราณอ่านว่า กอข้อ) อ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ ไม่ได้เรียนหนังสือเลย ยายยังทำได้ พวกคุณเป็นนักศึกษา เรียนจบตั้งเมืองนอกเมืองนา ถ้าตั้งใจจริง ๆ ทำไมจะทำไม่ได้”

 

เพราะฉะนั้น เมื่อคุณยายตอบหนักแน่นอย่างนี้ ก็ทำให้อุ่นใจได้ว่า

 

๑. นรก-สวรรค์มีจริงแน่

๒. ทุกคนมีสิทธิ์ไปพิสูจน์ด้วยตนเอง ไปนรก ไปสวรรค์ได้ แต่ว่าต้องขยันนั่งสมาธิ

๓. ผู้พูดได้ไปช่วยพ่อของตัวเองมาแล้ว และก็ยืนยันด้วยว่าอย่างเราก็ทำได้

 

ต่อมาภายหลัง คุณยายท่านก็เล่าให้ฟังเพิ่มเติมว่า

 

"หลวงปู่วัดปากน้ำท่านใช้คำว่า การไปนรก-สวรรค์เป็นเรื่องไม่ยากสำหรับคนที่เข้าถึงพระธรรมกาย เพราะถ้ายากก็คงจะไม่มีคนทำได้ มันง่ายสำหรับคนที่ทำได้ สำหรับคนที่ไม่ได้แต่มันยากทำ” 

หลวงพ่อก็ซักถามอีกว่า 

“ยาย ในโรงงานทำวิชชารุ่นเดียวกับยาย มีคนทำได้หลายคนไหม หรือว่าทำได้แต่เฉพาะยาย ?”

 

คุณยายก็ให้ความมั่นใจว่า ในโรงงานทำวิชชาทำได้หลายคน ขอให้คุณขยันนั่งสมาธิให้มาก ๆ ก็จะทำได้เอง ”

 

ดังนั้น สำหรับผู้ที่ยังคลางแคลงสงสัยเรื่องนี้ ทางที่ดีก็คืออย่าเพิ่งเชื่อ และอย่าเพิ่งปฏิเสธ ให้เอาความเชื่อไว้บนหิ้ง เอาความจริงมาพิสูจน์ พิสูจน์ด้วยการขยันนั่งสมาธิทุกวัน พร้อมทั้งตั้งใจทำทานรักษาศีลไปด้วย วันใดที่เราเข้าถึงพระธรรมกาย วันนั้นเราก็จะเกิดความมั่นใจขึ้นมาเองว่า การเข้าถึงธรรมมีจริงนรก-สวรรค์มีจริง และคำสอนที่บันทึกในพระไตรปิฎกเป็นความจริง ขอให้นั่งสมาธิต่อไปทุกวัน โดยมีหลักสำคัญว่าทำให้จริง และทำให้ถูกวิธี เพราะของจริงต้องคู่กับคนจริง เราถึงจะพิสูจน์ความจริงได้ด้วยตัวเราเอง

 

พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทตฺตชีโว

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา

 

ท้ายที่สุดนี้ จากพระธรรมเทศนาเบื้องต้นที่ เราทุกคนที่ได้มีโอกาสเข้ามาทัสนาได้ประเทืองประดับสติปัญญา ทำให้เราทุกคนได้รับความกระจ่าง ในเรื่องนรก-สวรรค์ว่ามีจริงหรือไม่นั้น อยู่ที่ว่าเราจะเชื่อตอนเป็นหรือจะไปเห็นตอนตาย มนุษย์เราเกิดมาตายแล้วไม่สูญ สูญแต่กายหยาบ ส่วนดวงจิตนี้ต้องไปเกิดตามแรงกรรม ที่แต่ละคนได้สร้างเอาไว้ก่อนที่จะละโลก ทำดีก็ได้อานิสงส์ได้ไปสวรรค์ ทำชั่วก็ได้วิบากต้องไปตกนรก 

 

เมื่อเราทราบเช่นนี้แล้ว จงดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ทุกวันหมั่นเข้าวัดบำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา และสวดมนต์บทธัมมจักกัปปวัตตนสูตร เพื่อสั่งสมบุญสร้างบารมี  เมื่อถึงคราหลับตาลาโลก เราทุกคนจะได้ไปสวรรค์เสวยสุข ดังพุทธศาสนสุภาษิตความว่า

 

  ทุคฺคตึ  คจฺฉติ  ธมฺมจารึ

ผู้ประพฤติธรรม  ย่อมไม่ไปสู่ทุคติ

 

ที่มา : ขุททกนิกาย ชาดก ทสกนิบาต (ขุ. ชา. ทสก. ๒๗/๒๙๐)

 




วันที่ ๑๐ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๓ นี้ วาระวันคล้ายวันเกิดด้วยรูปกายเนื้อ 

พระเดชพระคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย 

เรียนเชิญลูกศิษย์วัดพระธรรมกายและผู้มีบุญทั่วโลก ร่วมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร

ให้ได้ ๒,๗๖๖,๐๐๐,๑๓๖ จบ เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และ บูชาธรรมท่าน 




เรียนเชิญทุกท่านสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตรตามลิงก์นี้ 

ขอกราบอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ สาธุค่ะ

 

กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนาโดยหลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่องนรกสวรรค์มีจริงหรือไม่

ยาย :  คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ศิษย์เอกพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)

ลิงก์สวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร สวดเสร็จช่วยกันกดไลฟ์ กดแชร์ กดติดตาม เพื่อเป็นกำลังใจกันและกัน

ภาพประกอบ

ใช้เพื่อการสอนศีลธรรม โปรดใช้วิจารณญาณ

 



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

โลกสว่างไสวด้วย...สองมือเรา

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การได้เกิดมาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนา มีศรัทธารักที่จะ ละชั่ว ทำความดี ทำใจใส ๆ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือ...