คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์
ขนนกยูง ท่านเกิดเมื่อวันที่ 19 มกราคม พ.ศ.2452 ซึ่งตรงกับ วันพุธ ขึ้น 10 ค่ำ
เดือนยี่ ปีระกา ที่อำเภอนครไชยศรี จังหวัดนครปฐม คุณยายเป็นบุตรคนที่ 5
ในจำนวนพี่น้องชายหญิงทั้งหมด 9 คน มีบิดาชื่อ พลอย มีมารดาชื่อ พัน ประกอบอาชีพทำนา
ฐานะของครอบครัวจัดอยู่ในระดับปานกลาง
ด้วยเหตุที่บิดาติดสุรา
เมื่อมึนเมามักบ่นพึมพำ มารดารู้สึกรำคาญ จึงตะโกนออกไปว่า “ไอ้นกกระจอก
อาศัยรังเขาอยู่” เมื่อบิดาของคุณยายได้ยินก็โกรธจัด
จึงถามลูกๆว่าได้ยินที่แม่ด่าว่าพ่อไหม คุณยายไม่อยากให้บิดาและมารดาทะเลาะกัน
จึงกล่าวว่า มารดากล่าวเช่นนั้นคงไม่ได้หมายถึงบิดา ทำให้บิดาโกรธมากจึงแช่งว่า
“ขอให้หูหนวก 500 ชาติ” ทำให้คุณยายกลัวมาก
เพราะเชื่อว่าคำพูดของบิดามารดานั้นมีความศักดิ์สิทธิ์
หากแช่งลูกอย่างไรย่อมจะเป็นเช่นนั้น
ประมาณ ปี พ.ศ. 2464 ในขณะนั้นคุณยายอายุได้เพียง
12 ปี คุณพ่อของคุณยาย เสียชีวิตลง ในขณะที่คุณยายกำลังดูแลที่นา
เมื่อคุณยายกลับมาถึงบ้าน ทราบข่าวแล้ว จึงเสียใจมาก
ประมาณ ปี พ.ศ. 2470
เมื่อคุณยายอายุได้ 18 ปี มีข่าวร่ำลือว่า หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
หรือที่รู้จักกันในอีกนามหนึ่ง คือ พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)
ซึ่งดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ สามารถสอนคนให้เข้าถึงธรรมกายได้
และเมื่อเข้าถึงธรรมกายแล้ว จะสามารถไปนรก, สวรรค์ ไปนิพพานได้ ไปพบพ่อแม่ ปู่ย่า ตายาย
หรือญาติมิตรที่ตายไปแล้วก็ได้ จึงเป็นแรงบันดาลใจให้คุณยายปรารถนาที่จะศึกษาวิธีการนั่งสมาธิเพื่อไปขอขมาบิดาในปรโลก
ปี พ.ศ. 2478 เมื่อคุณยายอายุได้ 26 ปี จึงตัดสินใจลาแม่และพี่น้อง เพื่อจะหาหนทางไปพบหลวงปู่วัดปากน้ำ
ปี พ.ศ. 2481 คุณยายขออนุญาตคุณนายเลี้ยบมาปฏิบัติธรรมที่วัดปากน้ำ เมื่อได้พบหลวงปู่วัดปากน้ำครั้งแรก หลวงปู่วัดปากน้ำก็ทักขึ้นว่า “มึงมันมาช้าไป”
ปี พ.ศ. 2497 หลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ได้เรียกประชุมลูกศิษย์ทั้งหมด เพื่อประกาศให้ทุกคนรับรู้ว่า อีก 5 ปี ท่านจะมรณภาพ และให้ลูกศิษย์ช่วยกันเผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก เพราะสำคัญและมีประโยชน์มาก วิชชานี้สามารถช่วยคนทั้งโลกได้
ปี พ.ศ. 2502 หลวงปู่วัดปากน้ำมรณภาพลง เมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2502 เวลาบ่าย 3 โมงเศษ
ปี พ.ศ. 2503 คุณยายทองสุกล้มป่วยลงด้วยโรคมะเร็งมดลูกระยะสุดท้าย คุณยายดูแลปรนนิบัติคุณยายทอกสุกอย่างใกล้ชิด จนกระทั่งคุณยายทองสุกสิ้นชีวิต
ปี พ.ศ.2506
คุณยายระลึกถึงคำสั่งของหลวงปู่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
ที่ให้เผยแผ่วิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
และรอคอยผู้ที่จะมาทำหน้าที่สืบทอดและเผยแผ่วิชชาธรรมกายตามที่หลวงปู่วัดปากน้ำสั่งไว้
จนกระทั่งในปีนั้นเอง (พ.ศ.2506) คุณยายจึงได้พบกับเด็กหนุ่มคนหนึ่งที่สนใจมาขอเรียนธรรมปฏิบัติ
และมีผลการปฏิบัติธรรมดีเยี่ยมในเวลาอันรวดเร็ว เด็กหนุ่มผู้นั้นปัจจุบัน คือ
ท่านไชยบูลย์ สุทธิผล หรือหลวงพ่อธัมมชโย (คุณครูไม่ใหญ่)
ปี พ.ศ.2509 นายเผด็จ ผ่องสวัสดิ์
ปัจจุบัน คือ หลวงพ่อทัตตชีโว ได้พบกับหลวงพ่อธัมมชโย
ครั้งแรกเมื่อวันลอยกระทงของมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ตรงกับวันที่ 27 พฤศจิกายน
พ.ศ.2509 การพบกันครั้งนั้น ทำให้หลวงพ่อทัตตชีโว ซึ่งสนใจในเรื่องนรก สวรรค์
อยู่แล้ว อยากจะไปพบคุณยาย หลวงพ่อธัมมชโยต้องอบรมหลวงพ่อทัตตชีโวอยู่นานถึง 3 เดือน
จึงได้พาไปพบคุณยาย จากนั้นคุณยายก็รับหลวงพ่อทัตตชีโวเป็นศิษย์อีกคนหนึ่ง
และได้ชักชวนเพื่อนนิสิตทั้งรุ่นพี่และรุ่นน้อง
มาปฏิบัติธรรมกับคุณยายเป็นจำนวนมาก
ปี พ.ศ.2510 หลังจากนั้นไม่นาน มีคนมานั่งสมาธิกับคุณยายเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะวันอาทิตย์ต้นเดือน มีคนมานั่งสมาธิกันเต็มบ้าน บรรดาศิษยานุศิษย์จึงหารือกันเพื่อสร้างบ้านหลังใหม่ให้คุณยาย และรวบรวมเงินกันสร้างเป็นบ้านไม้ 2 ชั้น อยู่ภายในบริเวณวัดปากน้ำทางด้านเหนือ ซึ่งพระภาวนาโกศลเถร (หลวงพ่อเล็ก) รองเจ้าอาวาสวัดปากน้ำในขณะนั้น เมตตาตั้งชื่อให้ว่า “บ้านธรรมประสิทธิ์”
ปี พ.ศ.2511 บ้านธรรมประสิทธิ์
โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันอาทิตย์ต้นเดือน มีคนมาปฏิบัติธรรมกันจนเต็มบ้าน
ตั้งแต่ชั้นบนเรื่อยลงมาถึงบันได
ชั้นล่างเรื่อยไปจนถึงสนามหญ้าหน้าบ้านตลอดจนทางเดินไปถึงประตูรั้ว
ทั่วบริเวณเนื่องแน่นไปด้วยผู้คนที่มาปฏิบัติธรรม ด้วยเหตุนี้ประกอบกับความตั้งใจจะเผยแผ่พระพุทธศาสนาให้กว้างขวางตามที่หลวงปู่วัดปากน้ำได้มอบหมายไว้
คุณยายจึงมีดำริที่จะสร้างวัดขึ้น ต่อจากนั้นไม่นาน คุณหญิงประหยัด
แพทยพงศาวิสุทธาธิบดี ได้ยกที่ดิน 196 ไร่ 9 ตารางวา ณ ตำบลคลองสาม อำเภอคลองหลวง
จังหวัดปทุมธานี ให้เป็นที่สร้างวัด ปี พ.ศ.2512
วันที่ 27 สิงหาคม พ.ศ.2512 วันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 9 หลวงพ่อธัมมชโย ได้บวช ณ พัทธสีมาวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มีพระเทพวรเวที (ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ เจ้าคณะใหญ่หนเหนือ คณะผู้ปฏิบัติหน้าที่สมเด็จพระสังฆราชฯ เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ ในปัจจุบัน) เป็นพระอุปัชฌาย์ และมีฉายาว่า “ธัมมชโย” แปลว่า “ผู้มีชัยชนะด้วยธรรมกาย”
วันที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2513 คุณยายมอบหมายให้หลวงพ่อทัตตชีโว (ขณะนั้นยังมิได้บวช) ไปดูแลรักษาที่ดิน 196 ไร่ และดูแลการก่อสร้างวัด ส่วนหลวงพ่อธัมมชโยกับคุณยายทำหน้าที่บอกบุญสร้างวัด และสอนธรรมปฏิบัติอยู่ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ กองทุนเริ่มต้นในการสร้างวัดตอนนั้นมีเพียง 3,200 บาท
ในช่วงต้นปี พ.ศ. 2513
หลวงพ่อทัตตชีโวได้ตั้งสัจจะประพฤติพรหมจรรย์
ในวันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ.2514
ท่านจึงได้บวชที่วัดปากน้ำ ภาษีเจริญ และเมื่อบวชได้เพียงสัปดาห์เดียว
คุณยายก็เริ่มฝึกให้เทศน์
ปี พ.ศ.2515
หลวงพ่อธัมมชโยมีดำริที่จะอบรมสั่งสอนธรรมะทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติให้กับเยาวชนและประชาชนทั่วไป
ทั้งนี้เพื่อมุ่งพัฒนาจิตใจอันเป็นพื้นฐานสำคัญยิ่งในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้เจริญก้าวหน้า โครงการอบรมธรรมทายาท และอุปสมบทหมู่
จึงเกิดขึ้นครั้งแรก
ปี พ.ศ. 2516 หลังจากออกพรรษา
พระภิกษุลูกศิษย์ของคุณยาย เฉพาะที่ทำหน้าที่ควบคุมการก่อสร้างวัด
ได้ย้ายจากวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ มาอยู่ที่ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม เป็นการถาวร
คุณยายยังคงอยู่ที่บ้านธรรมประสิทธิ์ คอยเก็บรวบรวมเสบียงส่งมาให้
ปี พ.ศ. 2518
การดำเนินการสร้างวัดได้เสร็จสิ้นไปแล้วเป็นส่วนใหญ่ กล่าวคือ
มีศาลาสำหรับปฏิบัติธรรมและมีกุฏิให้อยู่กันได้แล้ว หลวงพ่อธัมมชโยและคุณยายจึงย้ายจากบ้านธรรมประสิทธิ์มาอยู่ที่ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรมด้วย
คุณยายได้ตั้งกฎระเบียบภายในวัดด้วยตนเองทั้งหมด
ปี พ.ศ.2524 ได้มีการเปลี่ยนชื่อจาก
“ศูนย์พุทธจักรปฏิบัติธรรม” มาเป็น “วัดพระธรรมกาย”
ประมาณ ปี พ.ศ.2528 มูลนิธิธรรมกายจึงได้ซื้อที่ดินเนื้อที่ 2,000 ไร่ เศษ จากกองมรดกของ ม.ร.ว.สุวพันธ์ สนิทวงศ์ เพื่อจัดสร้างเป็นศูนย์กลางธรรมกายแห่งโลก
ปี พ.ศ.2531
คุณยายเป็นประธานกฐินสามัคคีของวัดพระธรรมกายเป็นครั้งแรกในวันที่ 6 พฤศจิกายน
พ.ศ.2531
ปี พ.ศ. 2537 หลวงพ่อธัมมชโย คุณยาย
และคณะศิษยานุศิษย์
พร้อมใจกันแสดงความกตัญญูกตเวทีด้วยการหล่อรูปเหมือนหลวงปู่วัดปากน้ำด้วยทองคำบริสุทธิ์หนัก
1 ตัน ในวันที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2537 โดยมีพระธรรมปัญญาบดี
(ท่านเจ้าประคุณสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์) เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ ภาษีเจริญ
เป็นประธานสงฆ์ประกอบพิธีเททอง
ปี พ.ศ.2538 – 2542 หลวงพ่อธัมมชโย
คุณยาย และคณะศิษยานุศิษย์ เริ่มสร้างมหาธรรมกายเจดีย์ในปี พ.ศ. 2538
จนกระทั่งวันที่ 21 ธันวาคม พ.ศ.2542
การประดิษฐานองค์พระธรรมกายภายนอกของมหาธรรมกายเจดีย์จึงเสร็จสมบูรณ์
ปี พ.ศ.2541 หลวงพ่อธัมมชโย
และคณะศิษยานุศิษย์ พร้อมใจกันหล่อรูปเหมือนคุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์
ขนนกยูง ด้วยทองคำบริสุทธิ์
ปี พ.ศ.2543 คุณยายละสังขารด้วยโรคชรา ตอนเช้ามืดของวันที่ 10 กันยายน พ.ศ.2543 ณ โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ กรุงเทพฯ รวมสิริอายุได้ 91 ปี
จากอัตตชีวประวัติอันงดงามของคุณยายฯตั้งแต่เริ่มแรกที่มาเจอหลวงปู่วัดปากน้ำ ได้มาทำวิชชาธรรมกายและ ได้มาสร้างวัดพระธรรมกายและศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก เพื่อไปเป็นที่พึ่งที่ระลึกของมวลมนุษย์ชาติ
ทำให้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทุกคนทั่วโลก ได้มีโอกาสศึกษาวิชชาธรรมกาย ได้รู้เรื่องราวความเป็นจริงของชีวิต ว่าเราเกิดมาทำไม ตายแล้วไปไหน ทำให้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกทุกคน ดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ทำให้ลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกมีหลักในการ ดำเนินชีวิตอย่างถูกต้องรักในการบำเพ็ญบุญสร้างบารมี ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาเป็นนิจ มีความสุขและปลอดภัยในสังสารวัฏ
กล่าวได้เลยว่า ถ้าไม่มีคุณยายฯก็ไม่มีหลวงพ่อธัมมชโยไม่มีวัดพระธรรมกายและศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลกได้เลย คุณยายฯท่านจึงเป็นมหาปูชนียาจารย์ เป็นครูผู้มีพระคุณต่อลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกยิ่งชีวิต สำคัญท่านเป็นครูผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของการสร้างวัดพระธรรมกายและศูนย์กลางในการเผยแผ่พระพุทธศาสนาวิชชาธรรมกายไปทั่วโลก
ท้ายที่สุดนี้ วันที่ 10 กันยายน
พุทธศักราช 2563 วาระครบ 20 ปี
วันคล้ายวันละสังขารคุณยายฯ จึงขอกราบเรียนเชิญลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก
ได้ร่วมพิธีน้อมรำลึกถึงพระคุณคุณยายฯ ณ หอฉันคุณยายอาจารย์ วัดพระธรรมกาย
ตามกำหนดการข้างต้นนี้ เพื่อน้อมถวายบุญบูชาคุณท่าน ศิษย์ดีต้องมีความกตัญญู ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี
ดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า
นิมิตฺตํ สาธุรูปานํ
กตญฺญูกตเวทิตา
ความกตัญญูกตเวที เป็นเครื่องหมายของคนดี
ที่มา : สมเด็จพระสังฆราช (สา
ปุสฺสเทวมหาเถร)
ขอกราบอนุโมทนาบุญต่อลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลกมา ณ โอกาสนี้ สาธุค่ะ
ขอกราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :
หลวงปู่วัดปากน้ำ : พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร)ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย
คุณยายฯ : คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง
ภาพประกอบ : www.dmc.tv
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น