ค้นหาบล็อกนี้

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐานจะได้บุญหรือไม่ ?

 

 

คุณยายสอนไว้...แม้บุญเล็กบุญน้อยก็ให้อธิษฐาน

เวลาใส่บาตรแล้วจะอธิษฐาน หรือไม่อธิษฐานก็ได้บุญอยู่แล้ว แต่ที่โบราณท่านสอนให้เราอธิษฐานกันนั้น เป็นการตั้งเจตนาแน่วแน่ลงไป คนที่ทำอย่างนี้เมื่อถึงคราวบุญสงผล จะได้ผลตรงตามที่เราปรารถนา

 

คำถาม: 


การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่คะ?

 

คำตอบ:  


ความจริงเวลาใส่บาตรแล้ว จะอธิษฐาน หรือไม่อธิษฐาน ก็ได้บุญอยู่แล้ว แต่ที่โบราณท่านสอนให้เราอธิษฐานกันนั้น เป็นการตั้งเจตนาแน่วแน่ลงไป คนที่ทำอย่างนี้เมื่อถึงคราวบุญส่งผล จะได้ผลตรงตามที่เราปรารถนา  เช่น สมมติเราเป็นคนที่ให้ทาน ถึงคราวบุญส่งผลก็จะทำให้เรา เป็นคนร่ำรวย แต่ว่าถ้าเราเป็นคนที่มีความเห็นผิด เป็นคนเจ้าโทสะ ถึงคราวบุญส่งผล เราก็รวย แต่เราก็ยังเจ้าโทสะอยู่

 

เมื่อทำบุญแล้วควรอธิษฐานอานิสงส์จะได้ตรงตามตั้งใจหวัง

เพราะฉะนั้นเราจึงมีโอกาส ที่จะเอาความรวยไปใช้ในทางที่ผิด คือใครขวางทาง ก็เล่นงานเขาถึงเป็นถึงตายเลยทีเดียว ท่านจึงสอนให้อธิษฐานด้วยเมื่อทำบุญ เพื่อเป็นการเตือนสติตัวเองไว้ จะได้ไม่ถลำไปในทางที่ไม่ดีไม่งาม  เช่น อธิษฐานว่า ด้วยอำนาจทานที่ข้าพเจ้าทำดีแล้วนี้ ขอให้บุญกุศลนี้ส่งให้ข้าพเจ้าเป็นผู้ที่ไม่มีโทสะ

 

ถ้าทำอย่างนี้ถึงคราวบุญส่งผล บุญก็จะคอยเตือนเรา ให้ไม่เป็นคนเจ้าโทสะได้ แม้แต่ในปัจจุบันนี้ ถ้าเราหมั่นอธิษฐานอย่างนี้บ่อยๆ ก็เป็นการเตือนตัวเอง ไม่ให้มีโทสะเข้าครอบงำ หรือเวลาเกิดโทสะก็สามารถยับยั้งตัวเองมีสติได้เร็วขึ้น

 



การอธิษฐานมีส่วนดีอย่างนี้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า จึงทรงจัดให้การอธิษฐานเป็นบารมีอย่างหนึ่ง ในบารมี 10 ทัศ เรียกว่า อธิษฐานบารมี แม้การที่พระองค์มาเป็นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ พระองค์มาด้วยอำนาจแรงอธิษฐาน  คือ ทรงตั้งจิตมั่น แล้วพยายามทำตามเส้นทางที่หวังไว้


 

การอธิษฐานบารมีเป็นหนึ่งในบารมี 10 ทัศ

การอธิษฐาน คือการตั้งโครงการนั่นเอง เป็นการตั้งโครงการระยะยาว ที่มีเป้าหมายเด่นชัด ความสำเร็จในทางโลกหรือทางธรรม หรือการทำงานอะไรก็ตาม ถ้าได้ตั้งโครงการเอาไว้ ก็จะทำให้งานนั้นสำเร็จสมบูรณ์ตามเป้าหมาย  ไม่ใช่ทำอย่างไร้จุดหมาย คือได้อย่างไรก็เอาอย่างนั้น หรือเริ่มต้นทำเรื่องหนึ่ง แต่ตอนท้ายกลับไปได้อีกเรื่องหนึ่ง เพราะฉะนั้นการอธิษฐานจิตจึงเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมาก ในการทำบุญของเราทุกครั้ง


พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา


สรุปเมื่อเราได้รู้หลักในการทำบุญที่ถูกหลักวิชชา จากพระธรรมเทศนาเบื้องต้นแล้ว ทุกครั้งก่อนทำบุญให้เราน้อมใจไว้ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7  พร้อมตั้งจิตอธิษฐานตั้งผังสำเร็จ ตั้งจิตปรารถนาอะไร ก็ให้ตั้งใจอธิษฐานแล้วเราจะสมปรารถนาตามที่เราตั้งใจไว้ทุกประการ




ท้ายที่สุดนี้เหลือเวลาอีก 21 วัน ก็จะถึงวาระวันคล้ายวันเกิดหลวงพ่อทตฺตชีโว วันจันทร์ที่ 21 ธันวาคม พ.ศ. 2563 ท่านอายุครบ 80 ปี 


เรียนเชิญลูกศิษย์วัดพระธรรมกายทั่วโลก และผู้มีบุญทุกท่าน ร่วมสวดธัมมจักกัปปวัตตนสูตร ฉลองชัยชิตังเม ให้ได้ 3,000,808,080 จบ ณ พระมหาธรรมกายเจดีย์ พระมหาเจดีย์พระพุทธเจ้าล้านพระองค์  วัดพระธรรมกาย เพื่อน้อมถวายเป็นพุทธบูชา และบูชาคุณหลวงพ่อทตฺตชีโว พร้อมตั้งจิตอธิษฐานถวายพรท่านตามที่ทุกท่านปรารถนา ตามหลักวิชชาที่เราได้รับความรู้จากพระธรรมเทศนาเบื้องต้น 


ศิษย์ดีต้องมีความกตัญญู 

ความกตัญญูเป็นเครื่องหมายของคนดี 

มาร่วมพิธีบุญใหญ่กันเยอะๆนะคะ 

ขอกราบอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :


พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่อง  การใส่บาตร ถ้าไม่ได้อธิษฐาน เพราะถือว่าใส่บาตรไม่ได้หวังผล จะได้บุญหรือไม่

คุณยาย : คุณยายอาจารย์มหารัตนอุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง

ภาพประกอบ ชมรมจิตสบาย กายเป็นสุข

                      งานบุญวัดพระธรรมกาย


วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ความรู้ท่วมโลกแต่เอาตัวไม่รอด !


 




ตอนที่ 1 สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น

 

โลกยุคนี้มิได้เป็นยุคที่คนหวงแหนความรู้ มิได้เป็นยุคที่คนขาดแคลนความรู้  ตรงกันข้าม กลับเป็นยุคที่คนมีความรู้จากทั่วทุกมุมโลก พยายามแข่งขันกันเผยแพร่ความรู้ของตัวเอง ผ่านระบบอินเทอร์เน็ตตลอด 24 ชั่วโมงอีกด้วย

 


วิธีการเผยแพร่ความรู้ก็ทำได้ง่าย ๆ ใครมีความรู้ใด อยากจะแบ่งปันให้ผู้อื่นได้รู้บ้าง ก็อัปโหลดข้อมูลลงในอินเทอร์เน็ต ความรู้นั้นก็จะถูกเผยแพร่กระจายออกไปทั่วโลกทันที ส่วนใครอยากรู้เรื่องใด เมื่อเข้าไปในอินเทอร์เน็ต ก็สามารถค้นหาความรู้เรื่องที่ต้องการนั้น แล้วดาวน์โหลดมาเก็บไว้ในคอมพิวเตอร์ได้ทันทีเช่นกัน

 

ปริมาณข้อมูลความรู้ ที่มีอยู่ในระบบอินเทอร์เน็ตอย่างมากมายมหาศาลนี้ กลายเป็นปัจจัยหลัก ที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยุคสมัยของโลก โดยเปลี่ยนจากโลกยุคเดิมที่คนส่วนมาก ยังขาดแคลนความรู้ ให้กลายเป็นโลกยุคใหม่ ที่มีปริมาณความรู้ล้นท่วมโลกไปแล้ว

 

สิ่งที่น่าคิดก็คือ ทั้ง ๆ ที่โลกยุคนี้กลายเป็นยุคที่ความรู้ท่วมโลก แต่ทำไมโลกกลับไม่เคยสงบลงเลยแม้แต่วันเดียว มิหนำซ้ำปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ นับวันมีแต่จะยิ่งเพิ่มพูนทวีคูณมากขึ้น อย่างรวดเร็วอีกด้วย อะไรเป็นสาเหตุให้โลกเกิดปัญหาวุ่นวายมากยิ่งขึ้นทั้ง ๆ ที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลกเช่นนี้

 

สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวาย ทั้งที่อยู่ในยุคความรู้ล้นท่วมโลก มีอยู่ 3 ประการ คือ

 

1. หลักสูตรการศึกษามุ่งเน้นด้านทฤษฎี แต่ขาดบทฝึกสร้างนิสัยดี ๆ


 




การจัดการศึกษาของชาติในยุคปัจจุบัน มุ่งสร้างคนให้มีความรู้ แต่ไม่ให้ความสำคัญกับการฝึกคนให้มีนิสัยดี ๆ ครั้นเมื่อความรู้ตกไปอยู่ในมือคนพาล  ย่อมมีแต่นำความวิบัติเสียหาย มาสู่สังคมและสิ่งแวดล้อม เพราะคนพาลมีนิสัยปล่อยให้ใจขุ่นเป็นปกติ จึงแยกแยะถูก-ผิด ดี-ชั่วไม่ออก เมื่อนำความรู้ไปใช้ก็คิดได้แต่เรื่องประโยชน์ส่วนตน และพวกพ้องของตนเท่านั้น เพราะเหตุนี้ปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ นานาในโลก จึงทวีคูณความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และอาจถึงขั้นทำลายล้างโลกได้อย่างคาดไม่ถึงทีเดียว

 

2. หลักสูตรการศึกษา กำหนดวิธีให้ความรู้ด้านแก้ทุกข์ ในชีวิตประจำวันไม่สมบูรณ์

 

การศึกษาปัจจุบัน มุ่งสอนแต่เรื่องการทำมาหากินเป็นหลัก แต่บกพร่องเรื่องเป้าหมายการศึกษาเกี่ยวกับการดับทุกข์ประจำชีวิต 4 ประการ ได้แก่

1) ทุกข์จากปัญหาสุขภาพ กาย

2) ทุกข์จากปัญหาการอยู่ร่วมกัน

3) ทุกข์ จากปัญหาการเลี้ยงชีพ

4) ทุกข์ จากกิเลส 


ทุกข์ทั้ง 4 ประการนี้ ส่งผลให้คนที่จบการศึกษาไปแล้ว รับมือกับความทุกข์ได้ไม่ครบ รับมือกับความทุกข์ไม่เป็น เมื่อปัญหารุมเร้ารอบด้าน จึงหาทางเอาตัวรอด ด้วยการทำอะไรมักง่ายแบบขอไปที โดยไม่คำนึงถึงความเสียหายที่จะตามมา กล่าวได้ว่า ความบกพร่องในเรื่องการวางเป้าหมาย การศึกษาเป็นอีกสาเหตุหนึ่ง ที่ก่อให้เกิดปัญหาวุ่นวายขึ้นในโลกปัจจุบัน

 

3. หลักสูตรการศึกษา ขาดความรู้พื้นฐานสำคัญ สำหรับป้องกันและแก้ทุกข์ ความรู้ที่แพร่หลาย จนล้นท่วมโลกอยู่ในขณะนี้ ไม่สามารถป้องกันและดับทุกข์ได้จริง ความรู้ที่ใช้ดับทุกข์ได้จริงนั้น คือความรู้จักประมาณ ผู้ที่จะมีความรู้จักประมาณเป็นนิสัยนั้น จะต้องได้รับการอบรมสั่งสอน ให้สามารถวินิจฉัยได้อย่างถูกต้อง ตามความเป็นจริงว่า

 

วัตถุสิ่งของใดคือสิ่งจำเป็นในการยังชีพ (Need) จะขาดเสียไม่ได้ สิ่งใดเป็นเพียงสิ่งที่ต้องการ (Want) หากขาดไปบ้างก็พอทนได้ สิ่งใดเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยสุรุ่ยสุร่าย (Extravagant) ต้องตัดใจไม่ไปยุ่งเกี่ยวด้วย เพราะนอกจากจะสิ้นเปลืองโดยใช่เหตุแล้ว ยังเสียเวลาในการทำความดีเพื่อชีวิตอีกด้วยอย่างไรก็ตาม

 

ถ้าคนเรายังแยกแยะ เรื่องพื้นฐานในการดำเนินชีวิตดังกล่าวแล้วไม่ได้ ก็ยากที่จะวินิจฉัยเรื่องอื่น ๆ ซึ่งเป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันได้ว่า สิ่งใดถูก - ผิด สิ่งใดดี - ชั่ว สิ่งใดบุญ-บาป สิ่งใดเป็นประโยชน์ - โทษ สิ่งใดควร – ไม่ควร อย่างถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ย่อมจะส่งผลกระทบโดยตรง ต่อความเป็นอยู่ของตนตลอดชีวิต และเป็นต้นเหตุให้ก่อปัญหาความวุ่นวายในโลกเพิ่มขึ้น โดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์อีกด้วย

 



ตัวอย่างเช่น คนบนโลกนี้มีอยู่กว่า 7,000 ล้านคน ถ้าหากทุกคนใช้ชีวิตอย่างสุรุ่ยสุร่าย ปัญหาที่ตามมาก็คือ บ้านทุกหลังจะมีแต่ของเหลือใช้ ที่กลายเป็นขยะล้นบ้าน ถ้าบ้านทุกหลังทิ้งขยะออกมาพร้อมกัน โลกก็กลายเป็นถังขยะใบใหญ่ในพริบตา ต่อจากนั้นก็กลายเป็นปัญหาลูกโซ่ต่อไปอีก นับตั้งแต่ปัญหาขยะล้นโลก ปัญหาทรัพยากรโลกเหลือน้อยลง ปัญหาภัยธรรมชาติ ปัญหาภัยแล้ง ปัญหาขาดแคลนอาหาร ปัญหาโรคระบาด ปัญหามลภาวะ ปัญหาขาดอากาศบริสุทธิ์หายใจ ปัญหาแหล่งเสื่อมโทรม เป็นต้น

 

การขาดวินิจฉัยอย่างถูกต้อง นอกจากจะก่อให้เกิดปัญหาสิ่งแวดล้อมเพิ่มขึ้นแล้ว การใช้ชีวิตอย่างสุรุ่ยสุร่าย ก็สร้างปัญหาสังคมให้เกิดความวุ่นวายเพิ่มขึ้นไม่แพ้กัน เพราะเมื่อทุกคนใช้จ่ายเกินตัว แต่ละครอบครัวก็จะประสบปัญหาการเงินตามมาทันที

 

เริ่มตั้งแต่ปัญหาค่าครองชีพสูงขึ้น ปัญหาหนี้สินครัวเรือน ปัญหาคุณภาพชีวิต ปัญหาสุขอนามัย ปัญหาค่ารักษาพยาบาลแพง ปัญหาคนตกงาน ปัญหานายจ้างลูกจ้าง ปัญหาสังคม ปัญหาเศรษฐกิจ ปัญหาการพัฒนาประเทศ เป็นต้น

 

ปัญหาความวุ่นวายต่าง ๆ ในโลกที่เพิ่มขึ้นตามมาไม่จบสิ้น เพราะสาเหตุ 3 ประการ ดังกล่าวนี้ ถ้าปล่อยไว้ไม่รีบแก้ไขให้ถูกวิธี ปัญหาก็จะลุกลามบานปลาย กลายเป็นไฟลุกท่วมโลก แล้วก็จะเข้าทำนองคำโบราณ ที่ใช้เตือนสติว่า 



ความรู้ท่วมหัว แต่เอาตัวไม่รอด

 


หรือหากจะพูดให้เข้ากับยุคสมัยนี้ ก็คือ 


ความรู้ท่วมโลก แต่เอาตัวไม่รอด



พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา 


ท้ายที่สุดนี้ ปัญหาที่หลวงพ่อได้เมตตาแยกแยะให้เห็นเด่นชัดตามโอวาทเบื้องต้นนี้ สิ่งเดียวที่จะสามารถแก้ไขปัญหา  ได้คือ คำสอนขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้มนุษย์ทุกคนละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส ถ้ามนุษย์ทุกคนสามารถปฏิบัติตามคำสอนของ องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัญหาทุกอย่างที่หลวงพ่อได้กล่าวไว้เบื้องต้นก็จะหมดไป


สนใจสมัครบวชโทร.02-8311234


โครงการบรรพชาอุปสมบทหมู่รุ่นบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ประจำปีพุทธศักราช 2563    เป็นโครงการที่มีความปรารถนาที่จะมอบสิ่งดี ๆ มอบความสุขให้กับทุกคน และเพื่อเป็นแนวทางการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นต่อสังคมในยุคปัจจุบัน สิ่งสำคัญที่ต้องแก้เป็นอันดับแรกก่อนอื่นเลย คือต้องแก้ที่ใจมนุษย์เรานี่เอง   



เรียนเชิญชายแมนแมนทุกท่านมาบวช เพื่อศึกษาคำสอนแก่นแท้ในพระพุทธศาสนา   เรียนรู้การปฏิบัติธรรม สามารถจัดระเบียบความคิดสามารถทำให้เราพ้นทุกข์พบสุขอย่างแท้จริงได้ และมาค้นหาหนทางสวรรค์ หนทางพระนิพพาน ด้วยการนำพาตัวของชายแมนแมนทุกท่าน

มาบวชเพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา และได้ตอบแทนพระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ


สุดท้ายเมื่อต้องสละฆราวาสวิสัย ลาสิกขาเพื่อออกไปดำเนินชีวิตทางโลก  ประเทศชาติก็จะได้พลเมืองที่ดี มีทั้งความสามารถและคุณธรรมควบคู่ เป็นคนดีที่โลกต้องการ  ปัญหาต่าง ๆ ที่หลวงพ่อได้เมตตาแยกแยะข้างต้น ก็จะถูกแก้ไขด้วยหลักธรรมคำสอนของ องค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ปัญหาเกิดที่ใจมนุษย์เราก็ต้องแก้ที่ใจมนุษย์ สังคมประเทศชาติสงบและร่มเย็นเป็นสุข        รอดปลอดภัยในสังสารวัฏ ตราบกระทั่งเข้าสู่ฝั่งพระนิพพานในที่สุด


ดังพุทธศาสนสุภาษิต ความว่า


ปณฺฑิโต  จ  วิยตฺโต  จ      วิภาวี  จ  วิจกฺขโณ

ขิปฺปํ  โมเจติ  อตฺตานํ     มา  ภายิตฺถาคมิสฺสติ.

ผู้ฉลาดเฉียบแหลม แสดงเหตุและไม่ใช่เหตุได้แจ่มแจ้ง และ

คาดเห็นผลประจักษ์ ย่อมเปลื้องตน (จากทุกข์) ได้ฉับพลัน

อย่ากลัวเลย เขาจักกลับมาได้.


ที่มา : ขุททกนิกาย ชาดก มหานิบาต (ขุ.ชา.มหา.)


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา เรื่อง สาเหตุที่ทำให้โลกวุ่นวายมากขึ้น

ภาพประกอบ pixabay.com



วันจันทร์ที่ 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ให้พร คือให้ความประเสริฐ

 


หลวงพ่อทตฺตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)

เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง

การให้พรเป็นการให้ความประเสริฐ ถ้ามองแล้วตัวเราไม่ได้มีความดีความประเสริฐอะไรเลย แต่พรุ่งนี้ลูกศิษย์ลูกหาจะมาขอพรจะเอาอะไรให้ ให้พรปาว ๆ เป็นนกแก้วนกขุนทอง พรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราเวลาท่านให้พร เรารู้สึกว่าพรของท่านศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่ในคำให้พรนั้นด้วย

 

คำถาม:

 

ยังไม่ทันแก่ก็มีลูกศิษย์ลูกหามาอวยพรปีใหม่ มากันหลายคน หลายกลุ่มไม่รู้จะให้พรอย่างไร ถ้าให้เหมือนกันทุกคนอย่างกับท่องจำคงไม่ดี หลวงพ่อมีหลักในการให้พรอย่างไรคะ ?

 

คำตอบ: 

 

การให้พรเป็นการให้ความประเสริฐ ถ้ามองแล้วตัวเราไม่ได้มีความดีความประเสริฐอะไรเลย แต่พรุ่งนี้ลูกศิษย์ลูกหาจะมาขอพรจะเอาอะไรให้ ให้พรปาว ๆ เป็นนกแก้วนกขุนทอง พรก็ไม่ศักดิ์สิทธิ์ ปู่ ย่า ตา ยาย ของเราเวลาท่านให้พร เรารู้สึกว่าพรของท่านศักดิ์สิทธิ์ มีความขลังอยู่ในคำให้พรนั้นด้วย

 

ถามว่าพรศักดิ์สิทธิ์ตรงไหน ?

พรศักดิ์สิทธิ์ พรขลัง ให้ผลจริงจัง ตรงสัจจะของผู้ให้ บอกอย่างนี้บางคนนึกไม่ออก ถ้านึกไม่ออกก็ต้องให้ย้อนไปดูเรื่องเก่า ๆ ดูตำรับตำราโบราณ ดูเรื่องพระองคุลิมาลก็แล้วกัน

 


พระองคุลิมาล ก่อนบวชท่านเป็นโจรฆ่าคนมาเป็นพัน ภายหลังเมื่อได้พบพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว จึงสำนึกบาปได้ ขอบวชเป็นพระภิกษุตั้งใจบำเพ็ญเพียร อยู่ในสำนักของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า แต่เนื่องจากท่านเคยเป็นโจรที่มีชื่อเสียง ลือกระฉ่อนเรื่องฆ่าคนไม่เลือกหน้า ระยะแรก ๆ เวลาออกบิณฑบาต ท่านไม่ค่อยได้อาหาร เพราะพอชาวบ้านจำหน้าได้ว่า คือโจรรองคุลิมาลก็ตกใจ เผ่นหนีกันไปหมด บางวันก็ถูกรุมขว้างปาจนเลือดอาบ

 


วันหนึ่ง ท่านออกบิณฑบาตไปพบผู้หญิงท้องแก่กลางทาง ผู้หญิงคนนั้นพอจำได้ว่า เป็นโจรองคุลีมาล ก็ตกใจ วิ่งหนีล้มลุกคลุกคลาน ในที่สุดก็หมดเรี่ยวแรงจะหนี ได้แต่อ้าปากผะงาบ ๆ ร้องไม่ออก ทำท่าจะตายเอาต่อหน้าต่อตา พระองคุลีมาลคิดช่วย แต่ทำอย่างอื่นไม่ได้ จึงกล่าวคำให้พรขึ้น ในคำให้พรนั้น ท่านอ้างสัจจะต่อคุณธรรมความดีที่ท่านมีก่อนว่า

 

“นับแต่เมื่อข้าพเจ้าเกิดแล้วในอริยวงศ์ ได้บวชในสำนักของ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าจนบัดนี้ ความคิดที่จะเบียดเบียนรังแกสัตว์ แม้สักนิดไม่มีเลย ด้วยสัจจะนี้ ขอน้องหญิงจงคลอดบุตรโดยสวัสดีเถิด”

 

พอท่านกล่าวจบ หญิงผู้นั้นก็คลอดบุตรออกมาอย่างง่ายดาย ปลอดภัยทั้งแม่ทั้งลูก เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นก่อนพระองคุลิมาล จะบรรลุเป็นพระอรหันต์

 

อำนาจของสัจจะ มีความศักดิ์สิทธิ์อย่างนี้ เพราะฉะนั้นเวลาเราจะให้พรใคร  ขอให้อ้างสัจจะในคุณธรรม ความดีที่มีอยู่ในตัวเราก่อน อาจจะเป็นสัจจะในการทำงาน เช่น “ด้วยสัจจะที่ได้ตักบาตร แก่พระภิกษุสงฆ์เป็นประจำมาตลอดปี ขอให้ผู้มาขอพรนี้ จงมีอาหารการกินบริบูรณ์อย่าได้ขาด”  หรือ “ด้วยสัจจะที่เคยตัดใจให้สมบัติเป็นทานโดยง่าย ขอให้ผู้รับพร จงได้สมบัติโดยง่ายเช่นกัน”

 

ถ้าเราไม่ได้ตักบาตรประจำ แต่เข้าวัดปฏิบัติธรรม นั่งสมาธิ สม่ำเสมอตลอดมา ก็อ้างบุญกุศลที่นั่งสมาธิมิได้ขาด ให้บุญกุศลนี้ถึงแก่ผู้มาขอพร ให้เขามีสติปัญญาเฉลียวฉลาด ถ้าเราเคยนั่งสมาธิเห็นองค์พระชัด ก็ขอให้เขา เมื่อปฏิบัติธรรม จงสามารถเข้าถึงองค์พระโดยง่าย เห็นองค์พระชัดใสเช่นกัน

 

ใครที่เป็นครูบาอาจารย์ อยู่ในฐานะที่ลูกศิษย์ลูกหาจะต้องมากราบไหว้ มาขอมอบตัวเป็นศิษย์บ้าง มาขอพรเพื่อความสุขความเจริญของเขาบ้าง อาชีพครูเป็นอาชีพนักบุญ ใคร ๆ ต่างก็ตั้งความหวังว่า ครูบาอาจารย์จะต้องมีความประเสริฐ ควรแก่การเคารพกราบไหว้ เพราะฉะนั้นถ้าใครเป็นครู ไม่รีบหาความประเสริฐใส่ตัว โดยปฏิบัติหน้าที่ครู หน้าที่ที่ควรมีต่อศิษย์ให้สมบูรณ์  ชาตินี้เห็นทีบัญชีบุญจะขึ้นตัวแดง เป็นหนี้ เนื่องจากถอนใช้ล่วงหน้าเสียแล้วนะ

 

พวกเราทุกคนที่รู้ตัวว่าพรุ่งนี้จะมีลูกหลาน หรือคนที่เคารพนับถือเรา มาขอพร แต่แหนงใจว่า ตัวเองไม่มีความดีอะไรเลย ก็ยังไม่สายเกินไปหรอกนะ คืนนี้ก่อนนอนสวดอิติปิโสสัก 108 จบ หรือนั่งสมาธิให้ตลอดคืน นี่ก็ยังเป็นความศักดิ์สิทธิ์ ที่จะเอาไปอ้างได้ แม้จะเป็นความศักดิ์สิทธิ์เพียงคืนเดียว ก็ยังดีกว่าไม่มีอะไรเสียเลยนะ

 

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา


บุคคลผู้ฝึกดีแล้วย่อมอุดมด้วยศีลสมาธิและปัญญา

ย่อมอุดมด้วยพรอันประเสริฐ


เรียนเชิญชายแมนแมนมาบวช เพื่อแสวงหาความประเสริฐ หนทางสวรรค์ หนทางพระนิพพาน ในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ด้วยการเข้ามาบวชเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัย และเพื่อสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา ในโครงการบรรพชาอุปสมบทบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ประจำปีพุทธศักราช 2563 

สนใจสมัครบวช โทร. 02-8311234








ขอกราบอนุโมทนาบุญล่วงหน้ามา ณ โอกาสนี้ สาธุเจ้าค่ะ


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนา หลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่อง เราควรมีหลักในการให้พรอย่างไรบ้าง

ภาพประกอบ dmc.tv

ลิงก์ ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีชัยชนะต่อองคุลีมาล


วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

ทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงพระธรรมกายได้โดยเร็ว

 

ทุกชาติศาสนาและเผ่าพันธ์ุล้วนมีพระธรรมกายภายในตน


คำถาม:

 

ทำอย่างไรจึงจะถึงพระธรรมกายได้โดยรวดเร็ว

จะต้องทำทาน รักษาศีล เจริญภาวนาหรือปฏิบัติธรรมอย่างไรบ้าง?

 

คำตอบ:

 

ถ้าจะเอาอย่างเคร่งครัดอย่างที่หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านใช้กับลูกศิษย์ของท่าน สมัยที่ท่านรับลูกศิษย์ใหม่ ๆ ถ้ามีใครมาถามอย่างนี้ละก็ ท่านจะถามกลับเลยว่า “เออ...จะต้องให้เข้าถึงเมื่อไรล่ะ” “ผมละอยากได้เดี๋ยวนี้เลย” ถ้าตอบท่านอย่างนั้น ท่านจะบอกทันทีว่า “ได้...เอ้านั่งตรงนั้นแหล่ะ มีข้อแม้นะ ถ้าพ่อยังไม่ลุก เจ้าก็ห้ามลุก ห้ามขยับ” แล้วก็นั่งกันไป ก็มีคนที่ทำได้

 

มีผู้เล่าว่ามีชาวอินเดียคนหนึ่ง แขกอินเดียคนนี้นับถือศาสนาฮินดู เป็นแขกจริง ๆ เขาได้ยินกิตติศัพท์หลวงพ่อวัดปากน้ำ เขาก็มากราบหลวงพ่อ “หลวงพ่อ ผมอยากจะเข้าถึงธรรมกายบ้าง อยากจะเข้าถึงเร็วๆ ได้ไหม” หลวงพ่อท่านก็นั่งนิ่งเข้าสมาธิไปดูพักหนึ่ง “เออ..โดยกำลังบุญของเอ็งนี่ ได้ และได้ในเวลาไม่เกิน ๗ วันด้วย อาบังร้องเอะอะบอกว่า “อะไรกันหลวงพ่อ พรุ่งนี้ผมจะกลับอินเดียแล้ว เอาให้ได้วันนี้ไม่ได้หรอ” หลวงพ่อก็นั่งนิ่งเข้าสมาธิไปดูใหม่ “ได้ แต่อาบังนะ พ่อไม่ลุก เอ็งห้ามขยับ ตกลงไหม” “ตกลงครับ”

 

อาบังก็แน่เหมือนกัน คนมันข้ามน้ำข้ามทะเลมาเยอะ เพราะฉะนั้นใจมันถึง ตกลงหลวงพ่อก็พานั่งกันในโบสถ์ นั่งกันตั้งแต่ประมาณบ่ายโมง พอบ่าย 2โมง อาบังลืมตาขึ้น หลวงพ่อก็ยังเฉย เขาก็หลับตาต่อ คนไม่เคยนั่งพอเข้าชั่วโมงที่ 2 มันปวดเมื่อยมาก ขามันสั่นพั้บ ๆ ถึงกับเหงื่อหยดทีเดียว ลืมตาขึ้นมาหลวงพ่อก็ยังเฉย ก็หลับตาต่อ พอเข้าชั่วโมงที่ 3 สำหรับคนที่ไม่เคยนี่เอาเรื่องนะ ชั่วโมงที่ 3 มันปวดสุดทนเข้า มันเลยคิดยอมตาย

 

อาบังบอกว่าพอมันคิดว่าตายก็ตายไปเท่านั้นแหล่ะ ความปวดมันเลยหาย  มันมีความรู้สึกเหมือนตกหลุมอากาศหวืดลงไป ตายแน่แล้วงวดนี้ พอหวือลงไป เอ้า..ตายก็ตาย เดี๋ยวเดียวองค์พระโผล่ขึ้นมาเลย

 

อาบังได้เข้าถึงธรรมกายภายในวันนั้น ในชั่วโมงที่ 3 แต่นั่น หมายความว่าได้ยอมสละชีวิตแล้วนะ ถ้าชั่วโมงที่ 3 ไม่ได้ก็ชั่วโมงที่ 4 ไม่อย่างนั้นตายจริง ๆ หลวงพ่อวัดปากน้ำ ท่านใช้สโลแกนของท่านสั้น ๆ ว่า “สู้ไม่ได้ตายเถอะ” เพราะฉะนั้นถ้ามีใครอยากเห็นเร็ว ๆ ก็ต้อง “สู้ไม่ได้ตายเถอะ” ใช้สโลแกนเดียวกับท่าน เอาไหม ถ้าเอา...มา

 

ถ้าอยากเข้าถึงธรรมกายเร็ว ๆ นอกจากทั้งนั่งสมาธิ ชนิดเอาชีวิตเป็นเดิมพันแล้ว ยังมีวิธีปฏิบัติเพื่อเพิ่มกำลังบุญ สรุปสั้น ๆ ว่า

 

เช้าใดยังไม่ได้ให้ทาน เช้านั้นอย่าเพิ่งกินข้าว วันใดยังไม่ได้รักษาศีล วันนั้นอย่าเพิ่งออกจากบ้าน คืนใดยังไม่ได้นั่งภาวนา คืนนั้นอย่าเพิ่งนอน” ตั้งใจทำไปอย่างนี้ไม่ช้าหรอก วันใดวันหนึ่ง กำลังบุญรวมเต็มที่ ก็เข้าถึงธรรมกายได้เหมือนกัน

 

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว

หลวงพ่อตอบปัญหา

 

สรุปความว่า การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงวิชชาธรรมกายนั้น ไม่ว่าจะเชื้อชาติศาสนาภาษาใด ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ด้วยกันทั้งสิ้น เพราะภายในกลางกายทุกคนมีพระธรรมกายเหมือนกัน อยู่ที่ว่าบุคคลท่านนั้นจะยอมตายถวายชีวิต เพื่อการปฏิบัติธรรมให้เข้าถึงวิชชาธรรมกายหรือไม่   

 

การปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงวิชชาพระธรรมกาย จะเข้าถึงได้แบบง่าย ๆ ชนิดที่เราคาดไม่ถึงเลยกันทีเดียว  เพียงเราปฏิบัติดังสโลแกน พระเดชพระคุณหลวงปู่สดวัดปากน้ำภาษีเจริญ ได้ทิ้งไว้เป็นมรดกแก่ลูกศิษย์ ไม่ได้เป็นไม่มี ของดีจริงต้องคู่กับคนที่ทำจริงแบบเอาชีวิตเป็นเดิมพัน คือ “สู้ไม่ได้ตายเถอะ”  

 

การเกิดมาเป็นมนุษย์พบพระพุทธศาสนา พบการปฏิบัติธรรมเพื่อการเข้าถึงวิชชาธรรมกาย การเข้าถึงความสุขภายในอย่างแท้จริง เป็นของยากยิ่ง เมื่อเราเกิดมาได้มาพบแล้ว ถือว่าเป็นบุญลาภ จงรักษาความโชคดี


ด้วยการดำเนินชีวิตด้วยความไม่ประมาท ทุกวันหมั่นให้เวลาแก่ตนเองในการปฏิบัติธรรม ด้วยทุก 1 ชั่วโมงขอแค่ 1 นาที หลับตาเบา ๆ ภาวนา “สัมมาอะระหัง” นึกนิมิตเป็นดวงแก้วหรือองค์พระแก้วใส ๆ เพียงแค่นี้เราก็จะเข้าถึงวิชชาธรรมกายได้โดยเร็ว  ชีวิตเราก็จะดำเนินไปด้วยความปลอดภัยในสังสารวัฏ 


 วิธีสร้างพลังในการ "เข้าถึงธรรม" 

โอวาทอันทรงคุณค่าหลวงพ่อธัมมชโย วัดพระธรรมกาย


เรียนเชิญทุกท่านปฏิบัติธรรม ตามเสียงหลวงพ่อธัมมชโยตามคลิปด้านบนนี้นะคะ



บรรยากาศการเชิญชวนชายแมนแมนมาบวช

ศูนย์ปฏิบัติธรรมจังหวัดฉะเชิงเทรา

ท้ายที่สุดขณะนี้เป็นช่วงเทศกาลชวนชายแมนแมนมาบวช  บูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ประจำปี พ.ศ.2563 เรียนเชิญชายแมนแมนมาบวช และเรียนเชิญยอดกัลยาณมิตรทุกท่านออกไปทำหน้าที่ เชิญชวนชายแมนแมนมาบวช เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา เพื่อตอบแทนพระคุณบิดามารดา และเพื่อให้ชายแมนแมนให้โอกาสตนเองเข้ามาศึกษา ธรรมะคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้มารู้จักวิธีการปฏิบัติธรรม เพื่อเข้าถึงความสุขภายในอย่างแท้จริง คือการปฏิบัติธรรมเพื่อให้เข้าถึงวิชชาธรรมกาย พระพุทธศาสนาเข้มแข็งการบวชคือคำตอบ


ชายแมนแมนท่านใดสนใจสมัครบวช โทร.02-8311234 

ค้นหาหนทางสวรรค์

ค้นหาหนทางพระนิพพาน

ขอกราบอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ สาธุ



กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนา : หลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่องทำอย่างไรจึงจะเข้าถึงพระธรรมกายโดยเร็ว

 ภาพประกอบ 

วันศุกร์ที่ 13 พฤศจิกายน พ.ศ. 2563

สัมภเวสีทำบุญกรรมต่างกันอย่างไร ?

 

 คำถาม:

พวกสัมภเวสี กับพวกเปรต ต่างกันอย่างไรครับ?

 

คำตอบ:

พวกเปรต คือสัตว์ในอบายภูมิจำพวกหนึ่ง เมื่อมีชีวิตอยู่เป็นมนุษย์ได้ก่อเวรไว้อย่างหนึ่ง คือเป็นคนโลภเห็นแก่ได้มากเกินไป จึงไปก่อเวรอทินนาทาน ลักทรัพย์ของผู้อื่น ตายแล้วก็ไปเกิดเป็นเปรต

 

สัมภเวสีที่หมดบุญจากสวรรค์กำลังแสวงหาพ่อแม่มาเกิด


ส่วน สัมภเวสี หมายถึงพวกกายละเอียดที่กำลังแสวงหาที่เกิด เช่น พวกเทวดา ซึ่งมีกายทิพย์หรือกายเทวดา เมื่อถึงเวลาหมดบุญส่วนละเอียดแล้ว จะมาเกิดเป็นคนอีก ระหว่างที่แสวงหาบิดามารดาอยู่ กายนี้เรียกว่ากายสัมภเวสี ส่วนพวกเปรตหรือสัตว์นรกที่หมดเวรจากนรกแล้วจะมาเกิดเป็นคน ขณะที่กำลังแสวงหาพ่อแม่อยู่ กายละเอียดนั้นเราก็เรียกว่ากายสัมภเวสีเช่นกัน ต่างกันตรงที่คนมีบุญเวลามาเกิด บุญที่ทำมาดีแล้วจะนำให้ไปหาพ่อแม่ที่ดี ๆ เกิดในที่ดี ๆ พอเหมาะพอสมกับบุญของตน เรียกว่า เลือกเกิดได้

 

สัมภเวสีที่หมดกรรมจากนรกกำลังแสวงหาพ่อแม่มาเกิด


ส่วนพวกที่เพิ่งพ้นจากนรกผุดขึ้นมาเกิด ไม่มีบุญพอจะเลือกเกิดในที่ดี ๆ ได้ ต้องไปเกิดในที่กันดารอดอยาก ดีไม่ดีหากหาพ่อแม่ที่เป็นคนไม่ได้ก็ต้องเข้าท้องสัตว์ไปก่อน หมดโอกาสสร้างความดีไปชาติหนึ่ง เพราะฉะนั้น คนที่ทำบาปตกนรกไปแล้ว โอกาสที่จะกลับมาเกิดเป็นคนอีกยากเหลือเกิน ขึ้นชื่อว่าบาปแล้ว อย่าทำเลยนะลูกนะ

 

สรุปแล้ว สัมภเวสีก็คือ กายละเอียดที่กำลังแสวงหาที่เกิดอยู่ กำลังแสวงหาบิดามารดา เขาทรงสภาพกายสัมภเวสีอยู่ได้ไม่นานหรอก เดี๋ยวก็หาที่เกิดจนได้ ส่วนพวกเปรตนั้นอยู่ในนรก ต้องอยู่นานจนกว่าจะหมดเวรนั่นแหละ

 

เพราะฉะนั้น บิดามารดาคนไหนที่อยากได้บุตรดีๆ ก็ต้องทำตัวให้อยู่ในศีลธรรม กายทิพย์ที่มีบุญมาก หรือพวกเทวดาเขาจะได้มาเกิดเป็นบุตร ถ้าทำตัวเลวเละเทะ เทวดามาเกิดไม่ได้ เดี๋ยวพวกเปรตอาจจะมาเกิดแทน แล้วจะหาว่าหลวงพ่อไม่เตือนไม่ได้นะ

 

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว

หลวงพ่อตอบปัญหา



 

ท้ายที่สุดนี้ ผู้มีบุญท่านใดมีบุตรยาก และปรารถนาได้ผู้มีบุญมาบังเกิดในตระกูลของตน ช่วงนี้เป็นช่วงเทศกาลชวนชายแมนแมนมาบวชบูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ ประจำปีพุทธศักราช 2563  ก็ขวนขวายสร้างบุญกุศลอันยิ่งใหญ่ บุญสืบต่ออายุพระพุทธศาสนา เป็นบุญอันไม่มีประมาณ   ด้วยการออกไปทำหน้าที่กัลยาณมิตรชักชวนชายแมนแมนมาบวช  ด้วยอานิสงส์แห่งบุญนี้จะทำให้เรา  ได้บุตรผู้มีบุญมาบังเกิดในตระกูลสมดังใจปรารถนา

 

บวชสืบอายุพระพุทธศาสนา

พระพุทธศาสนา เข้มแข็งรุ่งเรือง อยู่คู่โลกเป็นที่พึ่งที่ระลึกแก่มวลมนุษยชาติตราบนานเท่านาน ทั้งในภพชาติปัจจุบันและในสัมปรายภพ การบวชคือคำตอบที่สำคัญ เรียนเชิญชายแมนแมนมาบวช เพื่อสืบอายุพระพุทธศาสนา และตอบแทนพระคุณบิดามารดาผู้มีพระคุณ

 


สนใจสมัครบวช โทร.02-8311234

กำหนดการรายละเอียด 

โครงการอุปสมบท บูชาธรรมมหาปูชนียาจารย์ประจำปี 2563

กำหนดการ

เข้าโครงการ : วันอาทิตย์ 22 พฤศจิกายน พ.ศ.2563

พิธีบรรพชา : วันจันทร์ที่ 7 ธันวาคม พ.ศ.2563

พิธีอุปสมบท : วันที่ 12 - 13 - 14 ธันวาคม พ.ศ.2563

สถานที่อบรม: มหารัตนวิหารคด รอบพระมหาธรรมกายเจดีย์ 

                       วัดพระธรรมกาย

ระยะเวลา : อบรมระหว่างวันที่ 22 พย. 63 - วันที่ 7 กพ. 64


 หลักฐานการสมัครบวช

1. สำเนาทะเบียนบ้าน

2. สำเนาบัตรประชาชน

3. หลักฐานการศึกษา

 คุณสมบัติผู้เข้าอบรม

1. เป็นชายแท้ อายุ 20 ปี ขึ้นไป

2. มีสุขภาพแข็งแรง ไม่เป็นโรคติดต่อ โรคจิต โรคประสาท หรือโรค    ประจำตัวอื่น ๆ ที่ร้ายแรง

3. ไม่ติดยาเสพติดให้โทษทุกชนิด

4. ร่างกายไม่ทุพพลภาพ

5. เป็นผู้อยู่ง่าย กินง่าย ไม่เป็นอุปสรรคต่อการอบรม

6. มีคุณสมบัติอื่น ๆ ของผู้บวช ตามกฎมหาเถรสมาคม

รายละเอียดเพิ่มเติมคลิก  หรือสนใจสมัครบวชโทร 02-831-1234

ทบทวนบุญโครงการอบรมธรรมทายาทภาคฤดูร้อนรุ่นที่15 ปี พ.ศ.2530 



กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่องสัมภเวสีกับเปรตต่างกันอย่างไร

ภาพประกอบ dmc.tv

 

โลกสว่างไสวด้วย...สองมือเรา

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การได้เกิดมาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนา มีศรัทธารักที่จะ ละชั่ว ทำความดี ทำใจใส ๆ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือ...