ผมเป็นเจ้าของกิจการผลิตสินค้าอุปโภคบริโภค
ตั้งใจดำเนินกิจการอยู่บนความถูกต้อง ผมจะทำอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ?
“ความถูกต้อง”
ที่คุณยึดเป็นหลักในการทำงานของคุณนั้น มาจากคำว่า “สัจจะ” ซึ่งแปลว่า ความซื่อตรง
ซื่อสัตย์ นั่นก็หมายความว่า ต้องทำแต่สิ่งที่ถูกต้อง
เมื่อครั้งพุทธกาล เคยมีหัวหน้ายักษ์เป็นผู้ตั้งคำถาม ถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า “ทำอย่างไรให้มีชีวิตอยู่ก็เป็นสุข ตายแล้วก็ไปสวรรค์”
พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงตรัสตอบว่า
“ผู้มีศรัทธา เชื่อในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
แล้วมีความประพฤติ 4 ข้อ คือ
1. มีสัจจะ
2. มีทมะ
3. มีขันติ
4. มีจาคะ
ผู้มีศรัทธาและมีธรรมครบ 4 อย่างนี้
มีชีวิตอยู่ในโลกก็มีความสุข ตายไปก็ไปสวรรค์”
ธรรมเรื่องที่ 1 สัจจะ
เป็นธรรมที่ต้องลงมือประพฤติปฏิบัติ
ถ้ารู้ความหมายเพียงแค่ “ความถูกต้อง” ยังไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจมากพอ จะนำไปปฏิบัติได้
ถ้าแปลในลักษณะที่เอาไปฝึกด้วย ใช้งานด้วย สัจจะนั้นแปลว่า ความรับผิดชอบ
เมื่อทำอะไรขึ้นมาแล้ว ถ้าผิดก็ต้องรับผิด ถ้าถูกก็รับความดีความชอบไป บูรพาจารย์ของเราท่านแยกออกมาให้ดูว่า
ความถูกต้องที่ คุณจะต้องรับผิดชอบทำนั้นมีอยู่ 5 เรื่อง ไม่ใช่เรื่องเดียว
1.รับผิดชอบต่อหน้าที่
ต้องทำให้ครบทุกหน้าที่ที่มี
2.รับผิดชอบต่อการงาน
หน้าที่แต่ละอย่างมีการงานที่ต้องทำมากมาย งานต่าง ๆ ที่ทำขึ้นมาต้องทำให้ได้ดี ถึงระดับดีที่สุด
3.รับผิดชอบต่อคำพูด ในการดูแลกิจการนั้น คุณไม่ได้ทำเองทุกเรื่อง
คุณต้องให้คนอื่นมาช่วยทำ ฉะนั้นคำพูดของคุณ ที่สั่งงานไปต้องให้ชัดเจน
4.รับผิดชอบต่อบุคคล
คุณมีบุคคลที่ต้องรับผิดชอบ ทั้งบุคคลต่าง ๆ ในการปกครอง รวมถึงลูกค้าของคุณด้วย
5.รับผิดชอบต่อความดีของตัวเอง คือ
บุญบาปที่จะเกิดกับคุณ รวมทั้งนิสัยดี ๆ หรือนิสัยเลว ๆ ที่จะเกิดกับคุณ
ยกตัวอย่างการทำงานของคุณ
จะสร้างผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้น หน้าที่ของคุณต้องไปควบคุมดูแลให้วิจัยแล้ววิจัยอีก
ทดลองแล้วทดลองอีก ให้ได้ผลแน่นอน จึงจะยอมให้มีการผลิตออกมาจำหน่าย ส่วนในงานผลิต
คุณก็ต้องติดตามรักษาคุณภาพให้สม่ำเสมอ ต้องกำกับดูแลลูกน้องทุกระดับ ให้ทำงานให้ดีที่สุด
เพื่อรักษาชื่อเสียงของยี่ห้อเอาไว้ ฉลากสินค้าทุกตัวอักษรก็ต้องรับผิดชอบ
เพราะมันคือคำพูดของคุณ ถ้าทำไม่ดีก็คือการไม่รับผิดชอบทั้ง ต่อลูกค้า ต่อบุคลากร ต่อบริษัท
สุดท้ายก็ต่อบุญบาปของตัวเอง
นี้คือธรรมเรื่องที่ 1 คือ สัจจะ
ที่ใช้คำว่า รับผิดชอบหรือ ความถูกต้อง ซึ่งจะสำเร็จได้ก็ต่อเมื่อ ทั้งคุณและลูกน้อง
ต้องฝึกให้ตัวเองมีความซื่อสัตย์ถึง 5 สถาน
ความรับผิดชอบเพื่อความถูกต้องนี้ ต้องฝึกจากการงานที่ทำ
และต้องทำให้เป็นนิสัย โดยประการสำคัญ จะต้องมีความสำนึกในเรื่องความดี ความชั่ว
เรื่องบุญ เรื่องบาป ให้เป็นนิสัยการมีความสำนึก ในความรับผิดชอบ เรื่องบุญเรื่องบาปเป็นนิสัย
นั่นคือลักษณะของผู้มี “ศรัทธา” เชื่อในคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าแล้ว
เพราะถ้ายังไม่เชื่อว่ามีบุญ มีบาป มีนรก มีสวรรค์ มีชีวิตหลังความตาย
ก็จะไม่ตระหนักถึงความสำคัญ ของการกระทำของตนว่า จะเป็นบุญหรือบาป คนที่ไม่เชื่อ
ไม่มีศรัทธา จะไม่ทุ่มเทรับผิดชอบ มาถึงตรงนี้
ธรรมเรื่องที่ 2 ทมะ
ในขณะที่ทำการงานด้วยความรับผิดชอบ ตามหลักสัจจะอยู่นั้น
คุณธรรมหนึ่งจะเกิดตามมาคือ ทมะ ซึ่งแปลว่า ฝึก แปลว่า ข่ม
1. ฝึกนิสัยดี ๆ ขึ้นมาใหม่ เมื่อก่อนเราอาจจะทำงานอะไร
ยังไม่ดีเท่านี้ แต่วันนี้ถึงคราวจะต้องสร้างธุรกิจให้เป็นหนึ่ง จึงต้องฝึก ต้องทำ
ให้ดียิ่ง ๆ ขึ้น ยกตัวอย่างเช่น แม้ตอนนี้สินค้าในตลาดของเรา ถือเป็นที่หนึ่งแล้ว
แต่เมื่อคำนึงว่า เมื่อต่างประเทศรุกเข้ามา สินค้าของเรา ก็อาจจะร่นถอยลงมา เป็นอันดับ
3 อันดับ 4 ได้ เมื่อคาดการณ์เห็นอย่างนี้ ก็มีความจำเป็น จะต้องฝึกกันต่อไป
ต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ต้องปรับปรุงพัฒนาต่อไป ไม่หยุดยั้ง
2. ต้องข่มนิสัยไม่ดีต่าง ๆ ให้หมดไปด้วย
เพราะนิสัยไม่ดีต่าง ๆ คือข้อบกพร่อง ที่ทำให้การดำเนินธุรกิจ เกิดความเสียหาย
เกิดอันตรายได้ เพราะฉะนั้น เราก็ต้องฝึกบุคลากรทั้งองค์กร ให้มีใจคิด และฝึกไปในแนวทางเดียวกัน
การพัฒนาถึงจะก้าวหน้าไม่หยุดยั้ง ขณะเดียวกัน ก็ระวังป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายตามหลังอีกด้วย
ธรรมเรื่องที่ 3 ขันติ
คือ ความอดทน การทำงาน ทุกงานนั้นต้องมีความอดทน
ถ้าไม่มี ก็เติบโตต่อไปไม่ได้ ขันติมี 4 ลักษณะ แบ่งเป็น 3 ทน 1 อด คือ
ทนต่อความยากลำบาก ได้แก่ ทนแดด ทนลม ทนฝน
ยิ่งเป็นเจ้าของ ต้องลงไปตรวจงานดูกิจการของเราเอง
ทนต่อทุกขเวทนา ได้แก่ ทนป่วย ทนไข้
ถ้าไม่เจ็บหนัก ก็ต้องออกไปติดตามดู การทำงานของลูกน้อง ถ้าปล่อยปละ อาจมีบางสิ่งรอดหูรอดตาไปแล้ว
เสียหายได้
ทนต่อการกระทบกระทั่ง
เพราะการปกครองคนหมู่มาก ย่อมมีการกระทบกระทั่งกันเกิดขึ้นบ้าง ก็ต้องทนต่อลูกน้อง
ทนคำบ่น ทนคำนินทา
อดใจต่อการยั่วเย้าของกิเลส เช่น
อดใจต่อคำชม คำสรรเสริญต่าง ๆ ถ้าเผลอตัวไปกับคำชื่นชมต่าง ๆ เราอาจประเมินกำลังศักยภาพของตนผิดพลาดได้
ความประมาทเป็นหนทางแห่งความเสื่อม
ธรรมเรื่องที่ 4 จาคะ
คือ เสียสละ
ในขณะที่ทำงานไปและพยายามฝึกสัจจะ ทมะ และขันติไปด้วย
ก็มีเรื่องที่ต้องการความเสียสละของเราเกิดขึ้นตามมา
การเสียสละเกิดขึ้นหลายประการ ได้แก่
1.สละเวลา สละเวลาหลับเวลานอน
บางครั้งต้องติดตามงานให้เสร็จจนถึงดึกดื่น หรือบางครั้งต้องถูกปลุกแต่เช้า ไปดูแลแก้ไขความผิดพลาดที่เกิดขึ้น
2.สละความรู้ความสามารถ
ความรู้ความสามารถบางอย่างหวงไม่ได้ เมื่อต้องการคนมาช่วยงานแบ่งเบาภาระงาน ต้องให้ความรู้แก่เขา
และบางทีความรู้ที่เป็นความลับของเรา จะรั่วไหลไปบ้าง ก็คงต้องยอมสละ
3.สละอารมณ์
ต้องสละอารมณ์เสียอารมณ์บูดทั้งหลาย จากการทำงาน จากความเห็นไม่ตรงกัน ฯลฯ
หากจะทำให้การสละอารมณ์ตรงนี้ได้ง่าย ก็ต้องฝึกนั่งสมาธิให้บ่อย ๆ
4.สละทรัพย์สิ่งของ ถึงเวลา
ถึงจังหวะโอกาสที่เหมาะสม ก็มีรางวัลเตรียมไว้ให้แก่ลูกน้องคนทำงานด้วย
ตอบแทนน้ำใจที่เขายอมทำงานติดตามเรา ให้เราได้ใช้สอยให้ทำงานธรรมทั้ง 4 ประการ คือ
สัจจะ ทมะ ขันติ และจาคะ เมื่อฝึกทำงานไปจะเกิดตามกันมาเป็นชุด
จึงจะเกิดเป็นนิสัยขึ้นมา ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องเดียวกัน ไม่ใช่แยกเป็น 4 เรื่อง
เปรียบเสมือนเพชรเม็ดหนึ่งมีทั้งสีสวย เนื้อแกร่ง น้ำดี สะท้อนแสงแวววับ
มันไม่ได้แยกออกมาอย่างใดอย่างหนึ่ง โดยจุดเริ่มต้นต้องเป็นคนที่มีศรัทธา เชื่อคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
เชื่อในกฎแห่งกรรม เชื่อบุญบาป โลกนี้โลกหน้ามีจริง
เมื่อคุณคิดจะดำเนินกิจการบนความถูกต้อง
ให้ลำดับความสำคัญของคุณภาพสินค้ามาก่อนกำไร นั่นคือเริ่มต้นการทำงานด้วยสัจจะ
เป็นการเริ่มต้นที่ถูกทางแล้ว แต่จำเป็นต้องศึกษาให้เข้าใจรอบด้านว่า
ความถูกต้องประกอบด้วยความรับผิดชอบถึง 4 ด้าน
และธรรมชาติของความรับผิดชอบเหล่านี้ จะทำได้สมบูรณ์จะต้องฝึก สัจจะ ทมะ ขันติ
และจาคะให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปด้วย
ดังนั้น ถ้าคุณทำได้เช่นนี้
กิจการก็จะเจริญเติบโตยั่งยืนได้ ทรัพย์ก็มั่งคั่ง ชีวิตก็มั่นคง
สมบูรณ์ด้วยมิตรสหาย ลูกน้องบริวาร และเป็นชีวิตที่ได้สั่งสมบุญ ละเว้นจากบาปอกุศล
จึงเป็นชีวิตที่อยู่ในโลกอย่างเป็นสุข ตายแล้วก็ไปสู่สวรรค์
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว
หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา
กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :
พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่อง ค้าขายอย่างไรให้สำเร็จสมความตั้งใจ ?
ภาพประกอบ auct.co.th
กราบขอบพระคุณหลวงพ่อที่ชี้แจงให้ได้นำมาปฏิบัติ เพื่อให้การดำเนินชีวีตมีคุณค่า เป็นคนดีในสังคม
ตอบลบ