ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2564

โลกสว่างไสวด้วย...สองมือเรา


การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การได้เกิดมาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนา มีศรัทธารักที่จะ ละชั่ว ทำความดี ทำใจใส ๆ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือว่าเป็นบุญลาภมาก ๆ ทุกวันเราชาวพุทธยึดมั่นเข้าวัด บำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนา ทำให้เราชาวพุทธอยู่ร่วมกันอย่างเป็นสุขตราบจนทุกวันนี้  




ในสถานการณ์ปัจจุบันนี้   ได้เกิดเหตุการณ์ภัยร้ายโรคระบาด เชื้อไวรัสโควิด - 19  มาตรการเข้มงวดของกระทรวงสาธารณสุข สวมแมสตลอดเวลา กินร้อนช้อนกลาง เว้นระยะห่าง 2 เมตร และสำคัญงดรวมคนเกินร้อย และให้หยุดอยู่บ้านห้ามไปในที่ชุมชน ทำให้เราไม่สามารถไปวัดเพื่อบำเพ็ญบุญได้


การเกิดภัยร้ายด้วยเชื้อไวรัส โควิด - 19 แพร่ระบาดไปทั่วโลกนี้ แสดงให้เห็นถึงว่า บุญในตัวมนุษย์พร่อง  ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ถ้าเราหยุดอยู่บ้าน ปล่อยให้ชีวิตล่องลอยไปตามยถากรรม มันก็ไม่ต่างอะไรจากสวะที่ลอยไปตามน้ำเลย ชีวิตมนุษย์เราทุกคนมีค่าเกินกว่าที่จะปล่อยไปแบบไร้ค่าไปวัน ๆ เช่นนั้น


เราควรยึดหลักคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และนำพาชาวโลกเข้ามาร่วมกันดำรงตนด้วยความไม่ประมาท ด้วยการหยุดอยู่บ้าน  แต่เราจะไม่หยุดสั่งสมบุญสร้างบารมี เพราะการสั่งสมบุญสั่งสมบารมีเป็นเหตุนำสุขมาให้ และทำให้เราทุกคนพ้นจากทุกข์ทั้งมวล





คนไทยและชาวโลกทุกคน ควรร่วมด้วยช่วยกันเติมบุญให้กับตนเอง เมื่อมวลพลังบุญพลังความดีของทุกคนบนโลกใบนี้มารวมกัน สิ่งดี ๆ จะบังเกิดขึ้น โลกที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคร้าย ก็จะกลายเป็นโลกแก้วที่สะอาดบริสุทธิ์ เชื้อไวรัส โควิด - 19 จะหมดไปจากผืนแผ่นดินไทยและผืนโลกใบนี้ได้อย่างอัศจรรย์  เพราะพลังบุญจะกลั่นแก้สิ่งไม่ดีให้หมดไปจากผืนโลกใบนี้  สำคญบุญมีอานุภาพอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งมวลบนโลกใบนี้


เรียนเชิญทุกท่านมาร่วมต้อนรับพระธรรมยาตราครั้งที่ 9 (ออนไลน์) ผ่าน Application Zoom เพื่อเติมบุญเติมบารมีแก่ตนเอง โลกจะสว่างไสวด้วยสองมือเราแน่นอน

ขอกราบอนุโมทนาบุญมา ณ โอกาสนี้ สาธุ


Cr.เอ๋ จินตนา


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอก :


บทความ : นักเขียนอิสระ เอ๋ จินตนา

เข้าร่วมห้อง zoom ต้อนรับฯ : www.dmc.tv/2564

รายละเอียด : www.dmc.tv/zoom

ภาพประกอบ :  dmc.tv

ภาพประกอบ :  th.pngtree.com

วันจันทร์ที่ 18 มกราคม พ.ศ. 2564

ฝึกให้รักตนเองเป็น ควรทำ และผลที่ได้ ?

 

ร่างกายของเรานี้ประกอบด้วยธาตุสี่ ที่ไม่บริสุทธิ์จึงเสื่อมสลายตลอดเวลา ทำให้ต้องหา ธาตุสี่จากภายนอกมาเติมเข้าไปอยู่เรื่อย ๆ ไม่มีสิ้นสุด ดังที่เราต้องประกอบกรรมต่าง ๆ เพื่อการเติมธาตุสี่ แต่กายนั้นก็ทำกรรมตามที่ใจของเราเป็นตัวสั่งการ ส่วนของใจทำหน้าที่รู้และคิด ส่วนของกายพูดและทำ

 



กายที่ไม่บริสุทธิ์เกิดจากใจที่ไม่บริสุทธิ์ ใจนั้นเป็นธาตุรู้ เป็นธาตุละเอียด มีที่อยู่ภายในกาย ทำหน้าที่เห็น จำ คิด รู้ ถูกกิเลสซึ่งเป็นธาตุละเอียดที่สกปรกแทรกอยู่ในใจ ทำให้ใจไม่บริสุทธิ์ การเห็น จำ คิด รู้ ของใจจึงไม่ชัดแจ่ม จึงไม่ถูกต้องไปตามความเป็นจริง เพราะถูกกิเลสบดบัง

 

เมื่อใจตกอยู่ในอำนาจกิเลส ใจจึงคิดผิด สั่งให้กายพูดผิด ๆ และทำผิด ๆ กายจึงไม่บริสุทธิ์ไปตามใจที่ไม่บริสุทธิ์

 

มนุษย์เราสามารถที่จะแก้ไขใจ ที่ไม่บริสุทธิ์ด้วยกิเลส ให้กลับคืนมาบริสุทธิ์และหลุดพ้นจากอำนาจของกิเลสได้ด้วย “ธรรม” ซึ่งมีอยู่แล้วภายในกายของมนุษย์ทุกคน

 

พระธรรมกาย

คือกายสะอาดบริสุทธิ์ที่มีอยู่ในกลางกายมนุษย์ทุกคน



ธรรม” เป็นธรรมชาติที่สะอาด บริสุทธิ์ สว่าง มีอยู่ในตัวเราทุกคน เมื่อใดที่ใจของเรา เข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรม เหมือนไข่แดงรวมอยู่ในกลางไข่ขาว ธรรมอันบริสุทธิ์ จะกลั่นกรองใจให้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเป็นลำดับ ๆ จนกระทั่งกิเลสหลุดร่อน ไม่สามารถมีอำนาจบดบังใจได้อีกต่อไป การเห็น จำ คิด รู้ ของใจก็จะชัดเจนแจ่มแจ้งขึ้น ไปตามความบริสุทธิ์ที่เพิ่มขึ้นนั้น ใจก็จะเห็นถูก เมื่อคิดก็คิดได้ถูกต้อง จึงสั่งกายให้พูดและทำในสิ่งที่ถูกต้อง เป็นบุญกุศลมากขึ้น กายก็บริสุทธิ์ขึ้นไปตามใจที่บริสุทธิ์

 

ใจของเราจะเข้าถึงและเป็นอันหนึ่งอันเดียวกับธรรมภายใน ได้ด้วยวิธีการเดียวเท่านั้น คือ “การทำสมาธิ” โดยเอากายของเรามานั่ง อยู่ในท่าขัดสมาธิด้วยอิริยาบถที่ผ่อนคลายกล้ามเนื้อทุกส่วน ประคองใจที่แล่นไปในที่ต่าง ๆ ให้กลับเข้ามาอยู่ในตัว โดยใช้บริกรรมคาถา “สัมมา อะระหัง” บริกรรมนิมิตเป็นดวงแก้วใส ๆ หรือ องค์พระใส ๆ เพื่อให้ใจมีที่ยึดที่เกาะ ประคองใจให้มาหยุดมานิ่งได้ง่าย เมื่อใจหยุดนิ่ง ใจจะกลับมาอยู่ในฐานที่ตั้งดั้งเดิมของใจ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 กึ่งกลางลำตัวเหนือสะดือขึ้นมา 2 นิ้วมือ

 

เมื่อใจหยุดนิ่งที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ดีแล้ว จะมีแรงดึงดูดใจให้ตกมาที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 6 ซึ่งอยู่กึ่งกลางลำตัวในระดับเดียวกับสะดือของเรา ซึ่งเป็นที่ตั้งของธรรมภายใน

 

เมื่อใจเข้าถึงธรรม ความสว่างภายในก็เกิด การเห็นด้วยใจก็เกิด ความสุขภายในจากใจหยุดนิ่งก็เกิด ใจที่ประกอบด้วยธรรมจะกลับขึ้นมาสู่ที่ตั้งของใจ ที่ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 ใหม่ เมื่อใจขยายออกไป ใจจะตกศูนย์ใหม่ เข้าถึงธรรมดวงใหม่ที่สะอาดบริสุทธิ์เข้าไปอีกเป็นลำดับ ๆ จนกระทั่งเข้าถึงพระธรรมกายภายในตน

 

ใจที่ไม่บริสุทธิ์เป็นไปตามอำนาจของกิเลส จะถูกกลั่น ถูกกรอง ด้วยธรรมภายในให้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเป็นลำดับ ๆ อุปมาดังเครื่องกรองน้ำที่กรอง เอาสิ่งสกปรกออกไป น้ำต้องผ่านการกรองด้วยเครื่องกรองหลาย ๆ เครื่อง ด้วยความละเอียดที่ต่างกัน ในที่สุดก็ได้น้ำสะอาดมาดื่มกินฉันใด  ใจก็เช่นเดียวกัน ด้วยอำนาจความสะอาดบริสุทธิ์ของธรรม ที่ละเอียดเข้าไปเป็นชั้น ๆ จะกลั่นกรองใจให้สะอาดบริสุทธิ์ยิ่ง ๆ ขึ้น ส่งผลให้การคิดของใจ การพูด การกระทำของกายดีขึ้นเรื่อย ๆ นำความสุขกาย ความสบายใจ มาสู่เจ้าตัว  ส่งผลกระทบที่ดีต่อบุคคลอื่นและสิ่งแวดล้อม

 

ความสุข ความบริสุทธิ์ของกายและใจเกิดขึ้นได้ ด้วยวิธีการเดียวเท่านั้น คือการทำสมาธิ และตนเองเท่านั้นที่จะฝึกใจของตนได้ ไม่มีใครช่วยใครได้ ไม่มีใครทำแทนกันได้ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ธรรมแล้ว ด้วยพระมหากรุณาธิคุณ จึงทรงชี้แนะบอกทางให้ แต่ผู้นั้นต้องเป็นผู้ปฏิบัติเอง จึงจะเห็นผลได้เอง

 

สมาธิจึงเป็นเรื่องสำคัญของทุก ๆ ชีวิต ที่ทุกคนควรได้ฝึกทำทุกวัน ให้ต่อเนื่องตลอดชีวิต การเข้าถึงธรรมแม้เพียงเล็กน้อย ยังนำความสุขมาให้มากมาย ถ้ามนุษย์รักตัวเองเป็น ก็จะรักความก้าวหน้าในการปฏิบัติธรรม มีความเพียรพยายามไม่ลดละ เพื่อการเข้าถึงธรรมภายในที่มั่นคงถาวร ภพชาติใดภพชาติหนึ่ง เมื่อบุญบารมีเต็มเปี่ยม ก็จะสามารถเข้าถึงธรรมภายในได้สมบูรณ์  กำจัดกิเลสให้เป็นสมุจเฉทปหาน กิเลสสิ้นเชื้อไม่เหลือเศษ มีความบริสุทธิ์บริบูรณ์ตลอดไป

 

ในระหว่างที่เรากำลังฝึกทำสมาธิไปนั้น เราต้องดูแลกายนี้ให้เป็นปกติดี ไม่เป็นอุปสรรค ต่อการปฏิบัติธรรม พระพุทธองค์ทรงเตือนให้มีความสำรวมระวังกาย วาจา และการประกอบอาชีพให้ดี เพราะเรายังต้องอาศัยกายอันประกอบด้วยธาตุ 4 ไม่บริสุทธิ์นี้ ซึ่งมีแต่วันเสื่อมสลายไป หากสำรวมระวังได้ดี เซลล์ต่าง ๆ ก็มีอัตราการตายน้อยลง สุขภาพก็จะแข็งแรง อายุขัยก็ยืนยาวได้

 

การดูแลรักษากายเพื่อการทำสมาธิด้วย 3 เรื่องนี้ ได้แก่ การสำรวมระวังกาย วาจา และ อาชีพ หากมองให้ลึกแล้ว เราจะเห็นว่านั่นคือการปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ 8 พร้อมเสร็จไปในตัว เพราะกว่าที่เราจะสามารถทำเรื่องเหล่านี้ได้ดี เราต้องพิจารณาแล้วพิจารณาอีก การเห็นถูกเข้าใจถูกจึงจะเกิดขึ้น เราจึงคิดถูกว่าควรจะทำอะไร อย่างไร จึงออกมาเป็นคำพูด การกระทำการประกอบอาชีพถูก และทั้งหมดนี้ต้องล้มลุกคลุกคลาน พยายามแล้วพยายามอีก เพื่อปรับปรุงแก้ไขทำให้ดีขึ้น ซึ่งต้องอาศัยสติเป็นอย่างมากจึงจะพัฒนาขึ้น 

 

เป็นการดำเนินชีวิตของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า


เมื่อสติมีกำลังมาก ใจก็เป็นสมาธิได้เร็วได้ดีขึ้น การปฏิบัติอริยมรรคมีองค์ 8  จึงเกิดขึ้น ในชีวิตประจำวันของเรา รอบแล้วรอบเล่า  จนกว่าใจจะหยุดนิ่งเข้าถึงพระธรรมกายภายใน เป็นการดำเนินชีวิตตามเส้นทางของพระสัมมาสัมพุทธเจ้าโดยแท้

 

การสำรวมระวังกาย วาจา อาชีพนั้น เรื่องสำคัญก็อยู่ที่การเติมหรือการรับธาตุ 4 เข้าไป ในตัวให้ถูกต้องเหมาะสมนั่นเอง พระพุทธองค์ทรงเตือนไว้ประการหนึ่งคือ ให้ระวังรู้ตัว เวลารับประทานอาหาร อีก 4-5 คำจะอิ่ม ให้หยุด

 

เพราะความจริง คือ อาหารนั้นพอกับความต้องการของร่างกายแล้ว แต่ที่ยังไม่รู้สึกว่าอิ่มในทันที เพราะอาหารส่วนสุดท้ายยังไม่ตกถึงกระเพาะอาหาร กำลังเดินทางอยู่ในหลอดอาหาร เมื่อเราดื่มน้ำตามเข้าไปอีกครึ่งแก้ว อาหารก็จะไปถึงกระเพาะอาหาร เราจะรู้สึกว่าอิ่มพอดี

 

ถ้าทำได้จะแก้ไขอุปสรรคในการฝึกสมาธิไปได้ คือ ขจัดความง่วงในระหว่างการนั่งสมาธิ และการฝึกสมาธิจะต่อเนื่อง เพราะไม่ต้องลุกออกไปปัสสาวะในระหว่างการนั่งสมาธิ

 

อีกข้อสำคัญ คือ การจะฝึกใจได้ต้องฝึกห้ามใจในเรื่องง่าย ๆ ก่อน คือ เรื่องการกิน รู้ตัวว่าอีก 4-5 คำจะอิ่ม ให้หยุดได้แล้ว ซึ่งในจังหวะนั้น เรามักจะกำลังเพลิดเพลินกับรสอร่อยของอาหารอยู่ การหยุดให้ได้ไม่ใช่เรื่องง่ายนัก  และต้องอาศัยความเพียรพยายาม ให้สามารถทำเป็นนิสัยหยุดได้ทุกมื้ออาหาร

 

ขอให้รับรู้และตระหนักว่า มนุษย์ทุกคนสามารถแก้ไขใจ ให้กลับมาบริสุทธิ์ได้ ด้วยการฝึกสมาธิเพื่อให้ใจเข้าถึงธรรม เพราะมนุษย์นั้นนอกจากประกอบด้วยกายและใจแล้ว มนุษย์ยังมีธรรมที่รักษาความเป็นมนุษย์ไว้ หากสามารถรักษาใจให้อยู่กับธรรมได้ มนุษย์ก็จะคิด พูด ทำ แต่ในทางที่ถูกต้องชอบธรรม  พ้นจากอำนาจของกิเลสได้


พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา


สรุปสุดท้ายนี้ จากโอวาทของหลวงพ่อดังกล่าวเบื้องต้นนี้ การจะฝึกให้รักตนเองเป็น เราควรกระทำในสิ่งที่ พระสัมมาสัมพุทธเจ้าท่านทรงดำเนินเป็นแบบอย่างที่ดีต่อมนุษย์โลกทุกคน 


การเกิดมาเป็นมนุษย์เป็นของยาก เมื่อเราได้เกิดมามีบุญได้พบคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านสอนให้เราละชั่ว ทำดี ทำใจให้ผ่องใส ตามหมวดธรรมมรรคมีองค์ 8 ล้วนเป็นคำสอนที่มุ่งมั่น ให้เราทุกคน ฝึกฝนอบรมกายวาจาใจตนเองให้สะอาดบริสุทธิ์ หลุดพ้นจากกิเลสพ้นจากทุกข์ทั้งปวง รักตนเองเป็น ง่าย ๆ เพียงเราทุกคนควรหมั่นเข้าวัดบำเพ็ญบุญ ทำทาน รักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาให้เป็นนิจ 


ด้วยอานุภาพแห่งบุญที่เรา    รักในการทำทานจะทำให้เราเกิดมามีทรัพย์สมบัติไว้คอยท่า ชีวิตเราก็สุขสบายจะสร้างความดีแค่ไหนมากเท่าไรเราก็ทำได้ รักในการรักษาศีลจะทำให้เราเป็นผู้มีรูปสมบัติ หล่อสวยเป็นที่ตั้งแห่งศรัทธา รักในการทำสมาธิภาวนาจะทำให้เราเป็นผู้มีคุณสมบัติฉลาดมีปฏิภาณคิดรู้กระทำในสิ่งที่ควรที่ทำให้เราและชาวโลกมีสุขพ้นทุกข์    และย่นย่อหนทางพระนิพพาน ตราบจนถึงที่สุดแห่งธรรม



และในสถานการณ์โลกปัจจุบัน เราได้ทราบกันดีว่า ณ เวลานี้ได้เกิดมีภัยเกี่ยวกับการระบาดของเชื้อไวรัส โควิด - 19 เป็นสถานการณ์แสดงให้รู้ว่าบุญในตัวของชาวโลกหย่อน จึงทำให้เกิดเหตุการณ์น่ากลัวที่ทำให้คร่าชีวิตและทำให้มนุษย์โลกล้มป่วยติดเชื้อมากมายจาก สถิติเชื้อโควิด - 19 ทั่วโลก 


ปัญหาทุกอย่างมีทางแก้และออก เราทุกคนบนโลกใบนี้ร่วมด้วยช่วยกัน  ร่วมใจกันสั่งสมบุญสร้างความดี พลังบุญพลังความดีนี้ จะช่วยแก้ไขสถานการณ์โลก ช่วยกลั่นแก้ให้โลกใบนี้ ให้สะอาดบริสุทธิ์ โลกที่เต็มไปด้วยเชื้อโรคร้าย ก็จะกลายเป็นโลกแก้ว   ภัยจากเชื้อโรคไวรัสโควิด - 19 ก็จะมลายหายสูญไปจากโลกใบนี้   


เพียงเราทุกคนบนโลกใบนี้ได้ให้โอกาสตนเอง เติมบุญเติมบารมีเติมความดี เข้าร่วมต้อนรับพระธรรมยาตรา Online Allรวย ครั้งที่ 9 เพื่อน้อมบุญบูชาธรรม พระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร (ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย ผ่าน Application Zoom ทำที่ท่านได้ที่เรา บุญอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งมวล รักและปรารถนาดีกับใครชวนกันมา สาธุค่ะ.


Cr.เอ๋ จินตนา


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนา : หลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่อง การดูแลสุขภาพกายและสุขภาพใจ ให้เหมาะสมแก่การฝึกสมาธิและ เพิ่มโอกาสในการเข้าถึงธรรม

ร่วมต้อนรับพระธรรมยาตราOnline ครั้งที่ 9 ผ่านลิงค์นี้ www.dmc.tv/2564  

ภาพประกอบ :  dhammakaya.net

ภาพประกอบ :  dmc.tv

ภาพประกอบ :  kalyanamitra.org

วันศุกร์ที่ 8 มกราคม พ.ศ. 2564

เวลา...เป็นทรัพย์ที่เกิดประโยชน์ได้อย่างไร

 

เราจะใช้ทรัพย์อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด




เวลาคือทรัพย์ที่ทุกชีวิตมี เราจะใช้ทรัพย์คือเวลาอย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด?

 

พระบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้ตรัสรู้โดยชอบด้วยพระองค์เอง ทรงค้นพบว่า

 

1.ชีวิตนี้เป็นทุกข์ การเกิดเป็นเหตุให้เกิดทุกข์ เมื่อมีการเกิดทุกข์นี้เป็นอันพึงหวังได้

 

2.ชีวิตของมนุษย์ดำเนินไปภายใต้กฎแห่งกรรม หากมนุษย์เข้าใจ รู้เท่าทันเรื่องราวของกฎแห่งกรรม ก็จะสามารถดำเนินชีวิตในโลกให้มีทุกข์น้อย และมีโอกาสพ้นทุกข์ได้

 

เรื่องสำคัญในชีวิตที่จะต้องทำให้สม่ำเสมอ เพื่อทำให้ชีวิตเราสามารถเป็นที่พึ่งแก่ตนเองได้ สามารถนำพาชีวิตของตนให้ได้รับประโยชน์สูงสุด จากการเกิดมาได้ นั่นคือการศึกษาธรรมะของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า โดยจะต้องศึกษาให้เข้าใจจนแจ่มชัด แล้วสามารถปฏิบัติตามธรรมนั้นได้ ชีวิตถึงจะเป็นสุข สามารถพึ่งตัวเองได้

 

เมื่อเราจะศึกษาธรรมะ เราก็ต้องแบ่งเวลา เพื่อศึกษาให้เข้าใจในภาคทฤษฎี และแบ่งเวลานั่งสมาธิปฏิบัติธรรมควบคู่กันไป มิฉะนั้นการศึกษาและปฏิบัติธรรมก็จะไม่ก้าวหน้า

 

พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงแสดงให้เห็นว่า ความก้าวหน้าในการศึกษาและประพฤติธรรมนั้น ผู้ศึกษาจะจัดลำดับความสำคัญไว้ 4 เวลา หรือ 4 กาล ได้แก่ 


กาลที่ 1 กาลแห่งการฟังธรรม

กาลที่ 2 กาลแห่งการสนทนาธรรม

กาลที่ 3 กาลแห่งการแสดงธรรม

กาลที่ 4 กาลแห่งการปฏิบัติตามธรรม

ดังจะอธิบายโดยย่อ ดังนี้

 

กาลที่ 1 กาลแห่งการฟังธรรม

 

หมายถึง กาลหรือเวลาที่จะถือเป็นโอกาสได้พบพระเพื่อฟังธรรม ซึ่งมีหลากหลายจังหวะ ดังตัวอย่างต่อไปนี้

 

ตั้งแต่ในสมัยพุทธกาลมาแล้ว พระสงฆ์ท่านเทศน์ทุกวันพระ ฉะนั้นทุกวันพระจึงเป็นวันที่พุทธศาสนิกชน ควรหาโอกาสไปวัดฟังธรรม

 

เมื่อใดมีการเทศน์ การบรรยายธรรม โดยท่านผู้มีความรู้ ท่านที่เป็นนักปราชญ์ บัณฑิตหลวงพ่อ หลวงปู่ หรือพระอาจารย์ที่ทรงภูมิรู้ ภูมิธรรม ก็ถือเป็นโอกาสดีที่จะได้ฟังธรรมตามกาล

 

เวลาว่าง เวลาสบายใจ เช่น วันนี้งานการเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว ไม่มีเรื่องหนักอกค้างใจรีบไปวัด ไปกราบหลวงพ่อวัดไหนก็ได้ ยิ่งคุ้นกับท่านยิ่งดี นิมนต์หลวงพ่อเทศน์ให้ฟังสักกัณฑ์ หรือจะอบรมอะไรให้ ก็กราบนิมนต์ท่านเถิด  เพราะไม่รู้ว่าเมื่อไรจะสบายใจได้อย่างนี้อีก

 

เวลาทุกข์อกทุกข์ใจขึ้นมา อย่าไปไหนนะ รีบไปหาหลวงพ่อ วัดที่ใกล้ที่สุดเลย นี่ก็ฟังธรรมตามกาล กาลที่ทุกข์หนัก ถ้าเลือกไปที่อื่นแทน อาจจะพลาด อาจจะตัดสินใจทำอะไรผิด ๆ จะยิ่งทุกข์หนักเข้าไปอีก

 

การฟังธรรมตามกาลนี้ ขอให้ฟังด้วยความเคารพ พยายามน้อมใจตาม ตรองตาม ถ้าตรองตามไม่ทัน ต้องรีบบันทึกเอาไว้ จะได้หาโอกาสไปซักถามให้ยิ่ง ๆ ขึ้นไปในภายหลัง ดังนั้นเวลาฟังธรรม ก็ควรจะเตรียมอุปกรณ์ให้ดี มีกระดาษ ปากกา ดินสอไว้ด้วย แม้การแต่งกายก็ให้เรียบร้อย ตามขนบธรรมเนียมประเพณี เช่น การแต่งกายด้วยชุดขาวหรืออย่างน้อย ก็เสื้อขาวซึ่งจะเสริมบรรยากาศของการฟังธรรม

 

กาลที่ ๒ กาลแห่งการสนทนาธรรม

 

สำหรับผู้ที่ตั้งใจปรารถนาดีที่จะเจาะลึกธรรมะ ที่ได้ฟังมาตามกาลนั้น ให้แตกฉานขึ้น จะได้นำเข้าไปสู่ภาคปฏิบัติ แต่อาศัยลำพังสติปัญญา และประสบการณ์ของเราคนเดียว บางทีความเข้าใจจะยังไม่ค่อยชัดนัก  จำเป็นต้องมาสนทนากันก่อน มาทำความเข้าใจดูว่าที่เราเข้าใจนั้น ตรงกับที่คนอื่นเขาเข้าใจไหม

 

บางทีก็เห็นตรงกันบ้าง ไม่ตรงกันบ้าง บางทีก็ลึกตื้นไม่เท่ากันบ้าง หลังจากการสนทนาธรรมกันแล้ว เราก็จะได้แง่มุมอีกหลาย ๆ แง่มุม ที่เราไม่เคยคิดไปถึง การสนทนาธรรมตามกาล จะทำให้เราได้วิธีที่จะนำมาใช้ ในชีวิตประจำวัน  นี่คือคุณค่าของการสนทนาธรรม

 

บูรพาจารย์เตือนเอาไว้ว่า ก่อนสนทนาธรรมตามกาล ขอให้นั่งสมาธิก่อน ถ้านั่งล่วงหน้าเป็นวัน ได้ยิ่งดี ต้องนั่งสมาธิทำใจให้ดี เพราะอย่างไรเมื่อสนทนากันก็ต้องเจอที่เห็นไม่ตรงกัน เมื่อเห็นไม่ตรงกัน ถ้าใครพูดแสดงความเห็นที่ไม่ตรงกันออกมาก็รู้สึกเหมือนถูกขัดคอ เมื่อคิดว่าถูกขัดคอแล้วอาจจะโกรธกันได้

 

ทุกคนในโลกไม่ชอบให้ใครขัดคอ เพราะฉะนั้นเวลาจะแย้งข้อความอะไร มีสำนวนหนึ่งที่นิยมใช้แบบชาววัดด้วยกัน “ที่คุณว่าก็ดีนะ แต่ยังมีอีกแง่มุมทำนองนี้พอเป็นไปได้ไหม” ถ้อยวาจาอย่างนี้ไม่หักไม่โค่นใครให้เสียหน้า เสียความมั่นใจ ถ้าพูดจากันอย่างนี้ วงสนทนาธรรมก็จะดำเนินต่อไปได้

 

ในเวลาเดียวกัน ใครที่ถูกเขาเสนอแนะมาอย่างนี้ ก็ต้องรู้ตัวนึกทบทวนทันทีเหมือนกันว่า ที่เราว่ามานี้มันคงจะมีอะไรพร่องอยู่ ต้องทบทวนให้ดี ถ้าต่างฝ่ายต่างทบทวน ต่างฟังซึ่งกันและกัน การสนทนาธรรมตามกาลนั้นจะเกิดบุญใหญ่จริงๆ

 

กาลที่ 3 กาลแห่งการแสดงธรรม

 

เมื่อสนทนาธรรมกันแล้ว เราจะได้ความรู้ข้อปลีกย่อย ในเชิงปฏิบัติเพิ่มมากขึ้น เมื่อมีโอกาสจะถ่ายทอดให้ใครต่อขอให้รีบทำเถิด เพราะกว่าเราจะเกิดความซาบซึ้งธรรมได้ขนาดนั้นไม่ใช่ของง่าย และการนำความรู้นั้นไปแสดงให้คนอื่นรับทราบด้วย ก็เป็นการทบทวนของเราอย่างลึกซึ้งอีกที

 

การแสดงธรรมที่ง่ายสำหรับเราก็คือ การถ่ายทอดให้คนข้าง ๆ ตัว อาจจะเป็นลูก หลาน น้อง หรือใครก็ได้ที่อยู่ใกล้ตัว การแสดงธรรมของเราถ้าเป็นไปในลักษณะของการเล่าให้ฟัง จะดูเหมาะสมน่าฟัง

 

ในการแสดงธรรมตามกาลนี้ มีสิ่งที่ควรระมัดระวัง คือ ต้องแสดงธรรมโดยยึดหลัก “หลังอิงต้นโพธิ์” หมายความว่า ทุกอย่างที่แสดงต้องมีหลักฐาน ยืนยันจากพระไตรปิฎกว่า เป็นธรรมที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ พระอรหันต์ท่านนั้นท่านนี้แสดงเอาไว้ อริยบุคคลที่เป็นฆราวาสชื่อนั้นชื่อนี้พูดเอาไว้ อย่างนี้เรียกว่าหลังอิงต้นโพธิ์

 

เมื่อสนทนาธรรมหรือแสดงธรรมกับใครก็ตาม จงแสดงถึงความอัศจรรย์ของธรรม จงแสดงถึงพระคุณอันยิ่งใหญ่ในธรรม ของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า อย่าแสดงว่าข้าพเจ้านี้เป็นบุคคลอัศจรรย์ ที่แสดงธรรมได้ลึกซึ้ง เพราะแม้ตอนนี้เราเข้าใจธรรมลึกซึ้งในระดับหนึ่งแล้ว แต่อย่าลืมว่าเราไม่ได้คิดค้นขึ้นมาเอง  เรากำลังนำธรรมของพระบรมศาสดามาแสดง เมื่อรับรู้แล้วว่าธรรมเหล่านี้มีความอัศจรรย์อย่างไร ก็ควรที่จะไปกราบไหว้ สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าพระบรมครูของเรา

 

สำหรับหลวงพ่อเอง ทุกครั้งที่มีโอกาสขึ้นแสดงธรรม จะพยายามให้ได้ประโยชน์ทั้งตัวเองและผู้ฟัง โดยจะพยายามเจาะลึกธรรมเข้าสู่ภาคปฏิบัติให้ได้ คุณยายสอนวิธีแสดงธรรมหรือวิธีเทศน์ให้หลวงพ่อว่า เรื่องที่จะเทศน์ให้นำเรื่องที่ตัวเองฝึกตัวได้แล้ว นิสัยไม่ดีที่แก้ได้ หรือที่แก้ได้บ้าง แล้วก็เอาส่วนที่ได้บ้างไปเทศน์ อย่างนี้จะไม่มีการผิดพลาดเพราะเราได้ปฏิบัติมาแล้ว

 

เมื่อเราเคยใช้ได้ผลแล้วในระดับหนึ่ง ก็ควรที่จะแบ่งปันกันไป ใครเอาไปใช้แล้วได้ผล เราก็ได้บุญเพิ่ม อีกส่วนวิธีการเทศน์ เราก็เลือกเอาวิธีการสอนของครูบาอาจารย์ ที่เราเคยประทับใจการสอนของท่าน เช่น วิธีอธิบายบางอย่างของท่านนี้ดี บางอย่างท่านโน้นดี ค่อย ๆ หยิบมาทีละอย่างสองอย่าง สักระยะหนึ่งเราก็จะหลอมมาเป็นบุคลิกของเราเอง ครูบาอาจารย์เหล่านั้นก็จะได้บุญกับเราด้วย ที่นำวิธีการสอนของท่านมาแสดงธรรม มาถ่ายทอดธรรม

 

กาลที่ 4 กาลแห่งการปฏิบัติตามธรรม

 

ความรู้ธรรมทั้งหมดจากการฟังธรรม สนทนาธรรม และแสดงธรรม จะบังเกิดผลได้ ต้องนำไปปฏิบัติคำว่า “ปฏิบัติธรรม” นั้น มีความหมายที่กว้าง ฟังธรรมเรื่องไหนแล้วในเรื่องนั้น ๆ มีข้อที่จะต้องปฏิบัติอย่างไร ก็นำไปปฏิบัติ เช่น ฟังธรรมเรื่องทาน พอฟังจบแล้วก็ไปทำทาน ฟังธรรมเรื่องศีล ฟังเสร็จแล้ว เข้าใจแล้ว ก็ทบทวนศีล แล้วก็ตั้งใจรักษาศีลให้ดี ฟังธรรมเรื่องภาวนาฟังแล้วก็ไปเจริญสมาธิภาวนา

 

เมื่อภาวนามากเข้า ๆ ธรรมทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นทานหรือศีล ทั้งหมดนั้นจะเนื่องเข้าหากันเป็นเนื้อเดียว คือธรรมทุกข้อจะนำเข้าสู่การภาวนา ซึ่งเป็นต้นทางแห่งการเข้าถึงธรรมภายใน ต้นทางแห่งการพ้นทุกข์พบสุขแท้จริง

 

เวลาทั้งหมดที่ใช้ไปเพื่อกาลทั้ง 4 นี้ เป็นเวลาเพื่อชีวิต เพื่อปิดนรก เปิดสวรรค์ สร้างเสบียงใหญ่ไปนิพพาน เมื่อเราได้ใช้เวลาที่มีในชีวิตนี้ ไปกับเรื่องสำคัญ เรื่องที่เกิดประโยชน์สูงสุด แก่ตัวของเรา ทั้งในปัจจุบันชาติ ชาติหน้า ชาติต่อ ๆ ไป จนถึงที่สุดแห่งธรรมได้ นั่นคือเราได้ใช้ทรัพย์ที่มีอยู่อย่างคุ้มค่าที่สุด ตามเยี่ยงอย่างที่ผู้มีบุญ ผู้เป็นบัณฑิตนักปราชญ์ในกาลก่อน ได้ประพฤติปฏิบัติมา

 

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว (คุณครูไม่เล็ก)

หนังสือหลวงพ่อตอบปัญหา

 

จากพระธรรมเทศนาเบื้องต้น เราได้สดับเรียนรู้ในเรื่องการศึกษาธรรม แล้วสามารถเข้าใจถึงธรรมทุกบท   ต่อยอดด้วยการนำไปสู่ภาคการปฏิบัติ เพื่อมุ่งก่อประโยชน์สุขแก่ตนเองและชาวโลกต่อไปได้แล้วนั้น

 

ในสถานการรณ์ปัจจุบันได้มีเหตุการณ์ การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส โควิด – 19 ครั้งใหม่ เราทุกท่านควรปฏิบัติตามกฎของกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด    เพียงเราทุกคนควรหยุดอยู่บ้าน หยุดเชื้อเพื่อชาติ แต่เราจะไม่หยุดสร้างบุญบารมี สร้างความดี เพราะทุกชีวีอยู่ได้ด้วย บุญ หมดบุญหมดลมหายใจที่อยู่ได้บนโลกใบนี้ เพราะบุญอยู่เบื้องหลังความสุขและความสำเร็จทั้งมวล  



โครงการพระธรรมยาตราพระผู้ปราบมาร ครั้งที่ 9 
รักษ์บวร รักษ์ศีล 5ออนไลน์ ผ่าน zoom
ระหว่างวันที่ 2 - 31 มกราคม พ.ศ. 2563

 

วัดพระธรรมกายได้จัดให้มีโครงการธรรมยาตราพระผู้ปราบมาร ครั้งที่ 9 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5 ออนไลน์ ผ่าน zoom ระหว่างวันที่ 2 – 31 มกราคม พุทธศักราช 2564  เพื่อน้อมถวายเป็นกตัญญูบูชาคุณพระมงคลเทพมุนี (สด จนฺทสโร) พระผู้ปราบมาร (ครูผู้ค้นพบวิชชาธรรมกาย) เรียนเชิญทุกท่านร่วมพิธีตามกำหนดการดังรายละเอียดนี้โดยพร้อมเพรียงกัน คลิก

 


ตารางกิจวัตรธรรมยาตรา ออนไลน์ผ่าน zoom
เดือนมกราคม พ.ศ. 2564


กราบขอบพระคุณที่มาแห่งความสมบูรณ์ของบลอค :

พระธรรมเทศนาหลวงพ่อทตฺตชีโว เรื่อง เราจะใช้ทรัพย์อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุด

คลิกรายละเอียด โครงการธรรมยาตราเส้นทางพระผู้ปราบมาร ครั้งที่ 9 รักษ์บวร รักษ์ศีล 5

ภาพประกอบ  dmc.tv


โลกสว่างไสวด้วย...สองมือเรา

การเกิดเป็นมนุษย์เป็นของยาก การได้เกิดมาเจอคำสอนของพระพุทธศาสนา มีศรัทธารักที่จะ ละชั่ว ทำความดี ทำใจใส ๆ ตามคำสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ถือ...